ยุโรปแตกเสียงกลาง COP30 เชื่อยังมีหวังหยุดโลกร้อน แต่คำถามคือ “ใครควรรับผิดชอบ?”

แม้ยุโรปจะเป็นผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาเชื้อเพลิงเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยเยอรมนีและสหราชอาณาจักรติดอันดับต้น ๆ ของภูมิภาค แต่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า ยังพอมีความหวังหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของโลกร้อนได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างจริงจัง โดยชาวสเปนเห็นด้วยมากที่สุดถึง 65% ขณะที่ชาวเยอรมันมีความเชื่อนี้น้อยที่สุด เพียง 46%

ในประเด็น “ใครควรนำในการตัดสินใจด้านภูมิอากาศ” ผลสำรวจสะท้อนความเห็นที่หลากหลาย แม้สหภาพยุโรปจะส่งเสริมแนวคิด “Global Mutirão” หรือ “การร่วมมือระดับโลก” แต่เพียงไม่ถึงหนึ่งในสี่เท่านั้นที่เชื่อว่า “ประเทศร่ำรวยควรรับภาระหลัก” ในการแก้ปัญหา แม้พวกเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซสะสมเกือบสองในสามของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ในระดับการกำหนดนโยบาย ชาวสเปน เดนมาร์ก และเยอรมนี สนับสนุนให้ สหภาพยุโรปเป็นผู้ตัดสินใจแทนประเทศสมาชิก ขณะที่ฝรั่งเศสและอิตาลีมีท่าทีแตกต่าง เชื่อว่ารัฐบาลแต่ละประเทศควรเป็นผู้กำหนดทิศทางของตนเอง

ท่ามกลางกระแสเหล่านี้ สภาสิ่งแวดล้อมแห่งยุโรปได้สนับสนุนการแก้ไขกฎหมายสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ ซึ่งมุ่งให้กลุ่ม EU27 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% ภายในปี 2040 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่อาจกำหนดอนาคตด้านภูมิอากาศของทวีปในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า

ภาพรวมของผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า แม้ชาวยุโรปส่วนใหญ่ตระหนักถึงความรุนแรงของโลกร้อนและเชื่อว่ายังมีเวลาแก้ไข แต่ความเห็นเกี่ยวกับภาระความรับผิดชอบและผู้ควรเป็นผู้นำในด้านนโยบายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางการประชุม COP30 ที่กำลังดำเนินอยู่ เสียงของพลเมืองยุโรปจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทั้งความมุ่งมั่นและความร่วมมือในการต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศระดับโลกในอนาคต