Rain Bomb ถล่ม “หาดใหญ่” เหตุจาก 3 ปัจจัย ทำฝนระเบิดทั่วเมืองแบบไม่ทันตั้งตัว

Share on Line Share on Facebook Share on X
Rain Bomb ถล่ม “หาดใหญ่” เหตุจาก 3 ปัจจัย ทำฝนระเบิดทั่วเมืองแบบไม่ทันตั้งตัว

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat อธิบายเรื่อง Rain bomb หาดใหญ่ให้เข้าใจแบบง่ายๆ

โดยระบุว่า Rain Bomb เป็นศัพท์ทั่วไป ใช้อธิบายปรากฏการณ์ฝนตกหนักระดับ 100-200 มม.หรือมากกว่าในช่วงเวลาสั้นๆ และตกแบบฝนแช่หรือในพื้นที่เดียวโดยไม่เคลื่อนไปไหน

 

ปัจจัยธรรมชาติหนนี้มี 3 อย่าง

ลานีญา - พาลมตะวันออกส่งความชื้นเข้าไทย ฝนตกหนักกว่าค่าเฉลี่ย

ร่องมรสุม - พาดอยู่ภาคใต้ตอนล่างเป็นเวลานาน ไม่ขยับไปไหน

โลกร้อน - น้ำร้อนขึ้น ระเหยมากขึ้น อากาศร้อนจุไอน้ำได้มากขึ้น ในเมฆมีน้ำมหาศาล

เมื่อ 3 ปัจจัยมารวมกัน จึงเกิดมหันตภัยรุนแรง ซึ่งเมื่อลองย้อนอดีตดู จะเห็นว่าปัจจัย 1 และ 2 เป็นไปได้ตั้งแต่สมัยก่อน แต่ปัจจัย 3 คือเมื่อโลกร้อนรุนแรง มันจึงทำให้เกิดฝนถล่มหนักกว่าสมัยก่อน นอกจากนั้น ยังคาดการณ์ได้ยาก เช่น ฝนที่น่าจะเบาแล้ว กลับมาหนักใหม่ เป็นปัจจัยเฉพาะพื้นที่ซึ่งพยากรณ์ล่วงหน้านานๆ แทบไม่ได้ 

สรุปข่าว

ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อธิบาย “Rain Bomb” หรือ “ฝนระเบิด” ที่ “หาดใหญ่” คือฝนหนักมาก 100–200 มม. ตกเร็วและตกค้างอยู่จุดเดิมเพราะลานีญา, ร่องมรสุมไม่ขยับ, และโลกร้อนทำให้เมฆอุ้มน้ำมากขึ้น จึงรุนแรงกว่าสมัยก่อนและคาดการณ์ยากมาก ฝนลักษณะนี้เกิดได้ทุกพื้นที่ แม้ไม่มีพายุเข้า และอาจทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามภาวะโลกร้อน จึงต้องเตรียมพร้อมเสมอ ทั้งอุปกรณ์ ฉุกเฉิน การเฝ้าระวัง และตัดสินใจอพยพก่อนเมื่อไม่ปลอดภัย

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat อธิบายเรื่อง Rain bomb หาดใหญ่ให้เข้าใจแบบง่ายๆ

โดยระบุว่า Rain Bomb เป็นศัพท์ทั่วไป ใช้อธิบายปรากฏการณ์ฝนตกหนักระดับ 100-200 มม.หรือมากกว่าในช่วงเวลาสั้นๆ และตกแบบฝนแช่หรือในพื้นที่เดียวโดยไม่เคลื่อนไปไหน

 

ปัจจัยธรรมชาติหนนี้มี 3 อย่าง

ลานีญา - พาลมตะวันออกส่งความชื้นเข้าไทย ฝนตกหนักกว่าค่าเฉลี่ย

ร่องมรสุม - พาดอยู่ภาคใต้ตอนล่างเป็นเวลานาน ไม่ขยับไปไหน

โลกร้อน - น้ำร้อนขึ้น ระเหยมากขึ้น อากาศร้อนจุไอน้ำได้มากขึ้น ในเมฆมีน้ำมหาศาล

เมื่อ 3 ปัจจัยมารวมกัน จึงเกิดมหันตภัยรุนแรง ซึ่งเมื่อลองย้อนอดีตดู จะเห็นว่าปัจจัย 1 และ 2 เป็นไปได้ตั้งแต่สมัยก่อน แต่ปัจจัย 3 คือเมื่อโลกร้อนรุนแรง มันจึงทำให้เกิดฝนถล่มหนักกว่าสมัยก่อน นอกจากนั้น ยังคาดการณ์ได้ยาก เช่น ฝนที่น่าจะเบาแล้ว กลับมาหนักใหม่ เป็นปัจจัยเฉพาะพื้นที่ซึ่งพยากรณ์ล่วงหน้านานๆ แทบไม่ได้ 

ฝนแบบนี้เกิดได้ทุกที่ แม้แต่กรุงเทพก็เจอเป็นระยะ แต่ไม่นานเหมือนภาคใต้ตอนล่างในครั้งนี้ที่ฝนแช่นาน อีกอย่างที่อยากให้สังเกตคือไม่ต้องมีพายุเข้าก็ฝนตกหนักได้ (พายุเข้าเวียดนามไม่เกี่ยวกัน)

หมายถึง Rain Bomb อาจจู่โจมได้เสมอ ไม่เหมือนไต้ฝุ่นที่เราตามดูและพยากรณ์ได้แม่นยำ เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้และหาทางรับมือไม่ว่าจะอยู่ไหน ภาคเหนือ ภาคกลาง อีสาน จรดใต้ แทบไม่มีที่ไหนในไทยที่จะปลอดภัยจาก Rain Bomb และเโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเกิดย่อมรุนแรงมากขึ้นเรื่อย อีกทั้งยังทำนายล่วงหน้านานๆ ไม่ได้ จึงควรเรียนรู้และเตรียมตัวให้มากที่สุด เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ไม่มั่นใจถอยก่อนตอนที่ยังไปได้ แบตโทรศัพท์ใช้แบบประหยัด อาหาร/น้ำ ฯลฯ เป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวใต้ โดยเฉพาะหาดใหญ่ที่โดนหนักมาก หวังว่าทุกคนคงปลอดภัย

ที่มาข้อมูล : Thon Thamrongnawasawat

ที่มารูปภาพ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา