“รูโหว่โอโซน” ฟื้นแล้ว! NOAA-NASA ชี้เล็กสุดในรอบ 20 ปี สัญญาณดีต่อชั้นบรรยากาศโลก

Share on Line Share on Facebook Share on X
“รูโหว่โอโซน” ฟื้นแล้ว!  NOAA-NASA ชี้เล็กสุดในรอบ 20 ปี  สัญญาณดีต่อชั้นบรรยากาศโลก

องค์การ NASA และ NOAA ของสหรัฐฯ รายงานข่าวดีด้านสิ่งแวดล้อม โลกกำลังฟื้นตัวจากปัญหารูโหว่โอโซน หลังพบว่า “รูโหว่โอโซนแอนตาร์กติกา ปี 2568” มีขนาดเล็กเป็นอันดับ 5 ในรอบกว่า 20 ปี

รายงานของทั้งสองหน่วยงานยืนยันว่า ความพยายามของประชาคมโลกในการเลิกใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศตาม พิธีสารมอนทรีออล ปี 2530 กำลังเห็นผลอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลดการใช้ คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs) ซึ่งเคยถูกใช้ในสเปรย์ แผ่นโฟม บรรจุภัณฑ์ และสารทำความเย็น

NOAA ระบุว่า รูโอโซนปี 2568 มีขนาดเล็กเป็นอันดับที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นปีที่พิธีสารมอนทรีออลเริ่มมีผลบังคับใช้ โดยตลอดช่วงฤดูกาลการสลายตัวของโอโซนปีนี้ (ต้นกันยายน–กลางตุลาคม) รูโอโซนเฉลี่ยมีขนาดราว 7.23 ล้านตารางไมล์ และคาดว่าจะปิดเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของ 10 ปีที่ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์

สรุปข่าว

องค์การ NASA และ NOAA ของสหรัฐฯ รายงานข่าวดีด้านสิ่งแวดล้อม ระบุว่า รูโหว่โอโซนเหนือแอนตาร์กติกาปี 2568 มีขนาดเล็กเป็นอันดับ 5 ในรอบกว่า 20 ปี สะท้อนความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างประเทศในการลดสารทำลายชั้นโอโซน แต่อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวเต็มรูปแบบของโอโซนยังต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี เรื่องนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่าความพยายามของโลกในการปกป้องชั้นบรรยากาศเริ่มเห็นผลจริง และยังเป็นตัวอย่างสำคัญที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดในการรับมือปัญหาสภาพภูมิอากาศในอนาคต

องค์การ NASA และ NOAA ของสหรัฐฯ รายงานข่าวดีด้านสิ่งแวดล้อม โลกกำลังฟื้นตัวจากปัญหารูโหว่โอโซน หลังพบว่า “รูโหว่โอโซนแอนตาร์กติกา ปี 2568” มีขนาดเล็กเป็นอันดับ 5 ในรอบกว่า 20 ปี

รายงานของทั้งสองหน่วยงานยืนยันว่า ความพยายามของประชาคมโลกในการเลิกใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศตาม พิธีสารมอนทรีออล ปี 2530 กำลังเห็นผลอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลดการใช้ คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs) ซึ่งเคยถูกใช้ในสเปรย์ แผ่นโฟม บรรจุภัณฑ์ และสารทำความเย็น

NOAA ระบุว่า รูโอโซนปี 2568 มีขนาดเล็กเป็นอันดับที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นปีที่พิธีสารมอนทรีออลเริ่มมีผลบังคับใช้ โดยตลอดช่วงฤดูกาลการสลายตัวของโอโซนปีนี้ (ต้นกันยายน–กลางตุลาคม) รูโอโซนเฉลี่ยมีขนาดราว 7.23 ล้านตารางไมล์ และคาดว่าจะปิดเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของ 10 ปีที่ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์

ด้าน “สตีเฟน มอนต์ซกา” นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจาก NOAA ระบุว่า “ระดับสารทำลายชั้นโอโซนในสตราโตสเฟียร์แอนตาร์กติกาลดลง 1 หนึ่งใน 3 เมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดรูโอโซน โดยสูงสุดในช่วงปี 2543 และลดลงต่อเนื่องนับแต่นั้น”

ด้าน “พอล นิวแมน” นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์และหัวหน้าทีมวิจัยโอโซนของ NASA ชี้ว่า “รูโอโซนปีนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกกว่า 1 ล้านตารางไมล์ หากระดับคลอรีนในชั้นบรรยากาศยังเท่ากับเมื่อ 25 ปีก่อน”

ด้าน NASA เผยภาพจำลองขนาดและรูปร่างของรูโอโซนประจำปี 2568 โดยแสดงระดับการสูญเสียโอโซนตั้งแต่ระดับปานกลางจนถึงรุนแรง พร้อมทั้งกราฟเปรียบเทียบปริมาณโอโซนเฉลี่ยรายเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่ปี 2522–2568 แสดงให้เห็นแนวโน้มฟื้นตัวระยะยาว

แม้จะมีสัญญาณดี แต่ NASA และ NOAA ย้ำว่ากระบวนการฟื้นฟูโอโซนยังไม่สิ้นสุด ชั้นโอโซนต้องใช้เวลา อีกหลายสิบปี กว่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติก่อนยุคที่มนุษย์ใช้สารทำลายโอโซนอย่างแพร่หลาย เรื่องนี้สะท้อนว่า ข้อตกลงระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม เช่น พิธีสารมอนทรีออล สามารถสร้างผลลัพธ์จริงได้ในระยะยาว และเป็นตัวอย่างสำคัญที่โลกสามารถนำไปใช้กับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : NASA Earth Observatory

แท็กบทความ

รูโหว่โอโซน
ชั้นบรรยากาศโลก
ปัญหาสภาพภูมิอากาศ
สิ่งแวดล้อมโลกร้อนโลกเดือดอวกาศ