ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย!! 'เจมส์ คาเมรอน' เทียบโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททัน - เรือไททานิค

หลังจากที่ทั่วโลกต่างเอาใจช่วยปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำไททันที่พาผู้โดยสารดำดิ่งลงไปสำรวจเรือไททานิค (Titanic) ที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ (18 มิ.ย. 66) ล่าสุดกลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่าไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อมีรายงานเรื่องที่หุ่นยนต์สำรวจใต้ทะเลลึก ได้ค้นพบเศษซากเรือดำน้ำไททัน (Titan) ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนกรวยของท้ายเรือ บริเวณห่างจากหัวเรือไททานิคราว 488 เมตร และลึกลงไปจากผิวน้ำ 4 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการระเบิดแบบ Implosion หรือการกระเบิดที่ทำให้วัตถุยุบตัวเข้าหาตัวเอง เนื่องจากความดันใต้น้ำที่ระดับความลึกดังกล่าวมีความรุนแรงกว่าความดันบนผิวน้ำหลายร้อยเท่า ส่งผลให้ผู้โดยสารบนเรือทั้งหมด 5 คนเสียชีวิตและมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่สามารถกู้ร่างคืนมาได้

ภาพจาก: Twitter @ABC

หลังทราบข่าวทั่วโลกต่างร่วมไว้อาลัย รวมทั้งมีการจับตาไปที่ “เจมส์ คาเมรอน” (James Cameron) ผู้กำกับหนัง Titanic และ Avatar ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้สันทัดกรณีการดำดิ่งสำรวจเรือไททานิคเพราะเคยลงมาสำรวจแล้วร่วม 33 ครั้ง และมีข่าวเคยพบกับเหตุการณ์เรือดำน้ำติดกับซากเรือไททานิคนานถึง 16 ชั่วโมง

ซึ่งล่าสุดผู้กำกับคนดังได้แสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านการให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าว ABC ว่า “ผมอึ้งไปเลยครับสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะโศกนาฏกรรมของเรือดำน้ำไททันนั้นคล้ายกับของเรือไททานิคไม่มีผิด นั่นคือตอนเรือไททานิคนั้น กัปตันเรือได้รับคำเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็งและการเดินทางในคืนเดือนมืด แต่ก็ยังสั่งเดินเรือแบบเต็มสปีดจนไปชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งและเรือจม” (คลิกฟังความเห็น เจมส์ คาเมรอน)

ภาพจาก: AP, Reuters, IMDb

โดย “เจมส์ คาเมรอน” วัย 68 ปี เปรียบเทียบสิ่งที่เกิดกับเรือไททานิคเข้ากับสถานการณ์ที่ทาง “สต็อกตัน รัช” (Stockton Rush) ผู้ขับเรือดำน้ำไททันและเป็นผู้ก่อตั้งรวมทั้งประธานบริหารบริษัท Oceangate ผู้ผลิตเรือดำน้ำลำเกิดเหตุ ที่ไม่ฟังคำเตือนของเหล่าผู้เชี่ยวชาญและผู้สันทัดกรณีที่ต่างพากันส่งจดหมายเตือนถึงความเสี่ยงและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับทริปสำรวจเรือไททานิคครั้งนี้ ด้วยประเด็นด้านมาตรฐานและความปลอดภัยของเรือ โดยเฉพาะส่วนโครงสร้างของตัวเรือหรือตัวยานที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนี่ยม แทนที่จะเป็นเหล็ก, เซรามิกหรือ อะคริลิก จนพาให้ทุกคนบนเรือซึ่งมีทั้งมหาเศรษฐี, นักสำรวจ, ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรือไททานิคและแม้แต่ตัวเขาเองต้องถึงแก่ชีวิตทั้งหมด

ทั้งนี้ ทางการสหรัฐยังเตรียมมีการสอบสวนถึงสาเหตุของความล่าช้าเกี่ยวกับการแจ้งเหตุเรือดำน้ำไททันหายไปนานเกือบ 10 ชั่วโมง รวมถึงยังมีการจับตาว่าบริษัท Oceangate อาจถูกฟ้องร้องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะแม้ผู้ลงเรือจะมีการเซ็นสัญญาไม่เอาความพร้อมจ่ายค่าทริปเดินทางเกือบ 9 ล้านบาท แต่หากมีความประมาทเลินเล่อหรือไม่มีการเปิดเผยถึงอันตรายบางอย่างให้ผู้โดยสารทราบอย่างครบถ้วน ศาลก็มีสิทธิปฏิเสธสัญญาไม่เอาความและให้มีการเดินหน้ายื่นฟ้องร้องได้

ภาพจาก: Youtube 6abc philadelphia

ภาพจาก: IMDb