ได้ใช้แค่ 7 เดือน “ครูเต้ย” เผยสาเหตุตำรวจบุกยึดรถ

จากประเด็นร้อนที่นักร้องลูกทุ่งดัง  "ครูเต้ย อภิวัฒน์ บุญเอนก" กลายเป็นข่าวใหญ่ถูกตำรวจและบริษัท ไฟแนนซ์ มาติดตามทวงคืนรถหรู ที่ซื้อมาจากเต้นท์รถมือสองย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา

ภาพจาก facebook : ครูเต้ย อภิวัฒน์

ภาพจาก facebook : ครูเต้ย อภิวัฒน์

ภาพจาก facebook : ครูเต้ย อภิวัฒน์

ล่าสุด "ครูเต้ย" ได้ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการโหนกระแส ว่า  "เริ่มแรกผมซื้อลัมโบร์กินีจากเต็นท์รถนึง รุ่นกัลลาร์โดเดิมเป็นสีเทา แต่ไปแร๊พสีมิ้นต์มา ซื้อมาเบ็ดเสร็จทั้งหมดคือ 8 ล้าน ซื้อเป็นเงินสดครับ ตอนลงขายเป็น 8.2 ล้าน แต่เราเอารถเราไปเทิร์นด้วยครับ รถออดี้อาร์ 8 ไปเทิร์น ก็จะจ่ายเงินไป 1.5 ล้านบาท ตีของออดี้อีก 6.5 ล้าน

เรื่องเล่มรถ ไม่มีอะไรมาเลย เป็นความสะเพร่าของเราด้วย เมื่อก่อนตอนผมซื้อรถ ซื้อง่าย ไปดูสภาพรถ แล้วโอเค คุยกันตกลง เต็นท์ก็จะบอกว่าอาทิตย์สองอาทิตย์ทำเรื่องโอนให้ ส่งเล่มไปให้ เราก็ไม่มีปัญหา เพิ่งมีปัญหาเคสนี้ แต่มีทำสัญญาครับ สรุปสมุดเล่มรถ ยังไม่ได้เลยครับ ถามเขา เขาก็บ่ายเบี่ยง บอกกำลังตามให้ เจ้าของรถไปต่างประเทศบ้าง สุดท้ายเดือนกรกฎาคม มีตำรวจไปที่บ้าน ไปทำการอายัดรถ ผมไม่อยู่ อยู่แค่แฟน แม่ แล้วก็ลูก ลูกออกมาดู เขาก็ตกใจมาก ร้องไห้เลย เพราะที่ผ่านมาเราจะสอนลูกเสมอว่าห้ามทำในสิ่งที่ไม่ดี ถ้าทำตำรวจจะจับนะ เรื่องนี้เลยทำให้ผมสงสารลูกมาก

แล้วคนหมู่บ้านข้างๆ เขามาดูว่าเราทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า เขาก็ล้อมรถด้วย เหมือนเราทำผิดกฎหมาย ซึ่งตอนนั้น ผมไปคอนเสิร์ตแล้วโทรคุยกับแฟนและคุณตำรวจ เราก็บริสุทธิ์ใจ ก็ให้ตำรวจ เอารถไปที่โรงพัก ตำรวจก็นัดเจ้าของเต็นท์มาคุย เหมือนเขาไปซื้อรถมาแล้วไม่ไปผ่อนต่อ แต่เอามาขายให้ผม โดยบอกผมว่ารถโอนได้ปกติทุกอย่าง ไม่ได้บอกว่ารถมีไฟแนนซ์ สรุปที่ผ่านผมได้ใช้รถประมาณ 7 เดือน"

ภาพจาก facebook : ครูเต้ย อภิวัฒน์
ภาพจาก facebook : ครูเต้ย อภิวัฒน์

ภาพจาก facebook : ครูเต้ย อภิวัฒน์