แอนน์ แฮททาเวย์ จากเจ้าหญิงน้อยสู่นักแสดงชั้นนำของฮอลลีวูด

ผ่านมาแล้วทุกบทบาท และยังสามารถคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้อีกด้วย 

กล่าวได้ว่าเธอคือผู้รับบทเจ้าหญิงได้เหมาะเจาะที่สุดในยุคนั้นจริงๆ หลังจากแจ้งเกิดจาก “The Princess Diaries” กับบท เจ้าหญิง “มีอา เธอร์โมโพลิส” เธอก็ขึ้นแท่นเจ้าหญิงคนหนึ่งแห่งวงการฮอลลีวูดเลยทีเดียว 

3 ปีให้หลัง “แอนน์” กลับมารับหนังแนวเจ้าหญิงอีกครั้งกับเรื่อง “Ella Enchanted เจ้าหญิงมนต์รักมหัศจรรย์”

ซึ่งการที่เธอรับบทเป็นเจ้าหญิงอยู่หลายครั้งทำให้ แอนน์   ไม่สามารถลบภาพลักษณ์เจ้าหญิงออกจากความคิดของผู้ชมได้ จนในปีค.ศ. 2005 เธอจึงตัดสินใจรับบทบาทที่แตกต่างจากเดิมด้วยการรับบทเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่มีปัญหาในครอบครับ ในภาพยนตร์เรื่อง Havoc หรือบทคาวบอยสาว ที่สามีไปแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายอีกคน ในเรื่อง Brokeback Mountain ซึ่งทำให้ผู้ชมเปลี่ยนมุมมองที่ผู้ชมมีต่อตัวเธอ

ก่อนจะมีผลงานอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น Dark Waters,The Devil Wears Prada,Passengers,Bride Wars ฯลฯ  แต่ผลงานที่น่าจะฮือที่สุดคงหนีไม่พ้น Love & Other Drugs หนังรักที่น่ารักและวาบหวิวแทบจะที่สุดในชีวิตของ "แอนน์"  ที่จับคู่กับ  "เจค จิลเลนฮาล" ที่เรื่องนี้เราลบภาพ "เจ้าหญิงมีอา" และ "เจ้าชายเปอร์เซีย"  ไปได้เลย เพราะทั้งคู่มาโชว์ลีลาเลิฟซีนแบบถึงพริกถึงขิง แต่นั่นเป็นแค่จุดขายจุดหนึ่งของเรื่อง หนังยังมีแก่นแท้ และสาระที่มากกว่านั้น 

Love and Other Drugs เป็นเรื่องราวของแม็กกี้ (Anne Hathaway) สาวสวยที่เป็นโรคพาร์กินสัน (แบบเดียวกับโมฮำมัด อารี) ชีวิตเธอต้องใช้ยาตลอดเพื่อรักษาอาการ แต่ดันไปพบรักกับเจมี่ (Jake Gyllenhaal) ซึ่งทำงานเป็นเซลส์ขายยาให้บริษัท Pfizer หนังดำเนินไปโดยใช้ยาเป็นสื่อเชิงสัญลักษณ์

เรื่องนี้เน้นไปที่ความสัมพันธ์โดยมีเซ็กส์ เป็นตัวนำของเรื่อง ฉากวาบหวิว เรื่องอย่างว่ามันเลยเยอะไปหน่อย แต่หากพูดถึงมุมมองผ่านความเจ็บป่วย และความรักของคนคู่นี้ มันมีอะไรดีๆ ที่น่าค้นหามากๆ จัดเป็นหนังรัก จัดจ้าน ที่น่าสนใจ ที่สำคัญเลยคือความทุ่นทุนสร้างของนักแสดงที่เปลือยจริงโป๊จริง คือแบบมืออาชีพกันมากๆ 

ใครเป็นแฟน "แอนน์" ต้องดูกันให้ได้ เพราะพูดได้คำเดียวว่า..ของเค้าดีมากๆ จริงๆ