The Devil's Plan เกมเซอร์ไววัลที่มากกว่าแค่การเล่นเกม

ไม่ใช่แค่การไขปริศนาในแต่ละด่านแล้วผ่านไป แต่ละเกมต้องอาศัยกลยุทธ์ การคำนวณ การวิเคราะห์เชิงจิตวิทยา และความสามารถในการสร้างพันธมิตรกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เพราะแค่การมีมิตรที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ในทางตรงกันข้ามถ้าสร้างศัตรูก็อาจจะหลุดออกจากเกมได้ง่าย ๆ เช่นกัน 

ในรายการจะแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นเขตที่พักสุดหรู  กับส่วนที่เป็นคุก การกำหนดว่าใครจะอยู่เขตไหนขึ้นอยู่กับการเล่นเกม โจทย์หลักของรายการก็คือผู้เล่นจะต้องเอาชนะเกมที่รายการสร้างขึ้นโดยจะมีเกมหลักเป็นเกมที่ต้องเล่นทุกวัน ซึ่งแต่ละเกมก็มีหลายประเภทมาก ทั้งเกมกระดาน เกมการ์ด เกมจิตวิทยา รวมถึงเกมแก้ปริศนา ผู้เข้าแข่งขันต้องแข่งเกมต่าง ๆ เพื่อชิง "ตัวต่อ" ให้ได้เยอะที่สุด รวมถึงแข่งกันเพื่อไม่ให้ต้องไปอยู่ในคุก

 ผู้เล่นที่พ่ายแพ้ในเกมหลักจะถูกส่งไปอยู่ในคุกใต้ดิน ซึ่งในคุกก็จะต้องเล่นเกมอีกรอบเพื่อเพิ่ม ตัวต่อ แต่การแข่งขันรอบนี้ผู้แพ้ในเกมจะถูกคัดออกจากรายการทันที  

The Devil's Plan 2 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ดุเดือดกว่าเดิม

ภาพจาก : Netflix

ในซีซั่นใหม่นี้มีหลายอย่างที่เปลี่ยนจากซีซั่นแรก เริ่มที่ผู้เข้าแข่งขันที่เพิ่มเป็น 14 คน โดยเป็นการผสมผสานระหว่างคนดังและบุคคลทั่วไปที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครกว่า 1,000 คน 

หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่สร้างเสียงฮือฮาได้แก่ อีเซดล ตำนานนักเล่นหมากล้อมแชมป์โลก 18 สมัย ที่เคยแข่งหมากล้อมปะทะกับ  AlphaGo  รวมถึงดาราฮอลลีวูดอย่าง จัสติน เอช. มิน  จาก "The Umbrella Academy", นักร้องชื่อดัง คยูฮยอน แห่ง Super Junior, อดีตผู้ประกาศข่าว คังจียอง, ดาราสาวผู้มากความสามารถจาก KAIST ยุนโซฮี, และโปรโป๊กเกอร์/โปรดิวเซอร์ดนตรี Seven High

แต่ละเขตในแต่ละพื้นที่ได้มีการเพิ่มห้องพิเศษอย่าง  Death Room ไว้สำหรับเล่นเกมที่โหดและกดดันกว่าเกมปกติไว้ทั้งเขตที่พักอาศัยและคุก  

กระแสปังตั้งแต่เริ่มออกอากาศ

รายการ The Devil’s Plan: Death Room  ประสบความสำเร็จทันทีหลังเปิดตัว โดยขึ้นอันดับ 1 ของ Netflix ในเกาหลี และติดอันดับ Top 10 ในอีกหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ไทย และโมร็อกโก พร้อมยอดรับชมกว่า 1.7 ล้านครั้งภายในสัปดาห์แรก

แม้เกมส่วนใหญ่ต้องใช้สมอง อาจมีหลายคนไม่น้อยที่รู้สึกว่าดูแล้วก็ไม่เข้าใจหรือตามกติกาไม่เคยทัน ซึ่งผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้น  แต่บอกเลยว่าดูแล้วกลับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะการได้เห็นเหล่าคนอัจริยะเล่นเกมจิตวิทยา หักหลังกันไปมาแบบเหนือความคาดหมาย  ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือจุดเด่นของรายการที่ผู้ชมทั่วโลกต่างตั้งตารอว่าใครจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ 

สำหรับตอนจบของซีซั่นที่สอง (ตอนที่ 10–12) จะปล่อยให้ชมในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ทาง Netflix