Beyond The Bar ซีรีส์กฎหมายเรื่องใหม่ที่สะกดใจด้วยคดีที่คาดไม่ถึง

 Beyond The Bar  ซีรีส์กฎหมายเรื่องใหม่ที่สะกดใจด้วยคดีที่คาดไม่ถึง

นับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่การดูซีรีส์ทำให้เห็นแง่มุมใหม่ ๆ และเห็นหลากหลายเรื่องราวที่คาดไม่ถึง     Beyond The Bar เป็นซีรีส์ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงในตอนแรก แต่ในเวลาไม่นานกลับกลายเป็นซีรีส์เรตติ้งอันดับ 1 ทั้ง ๆ ที่ออกอากาศไปได้แค่ 4 ตอนเท่านั้น  นั่นหมายความว่าซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่

เรื่องย่อ  Beyond The Bar 

Beyond The Bar ภาพจาก : JTBC

เรื่องราวเริ่มต้นที่ ยุนซอกฮุน (รับบทโดย อีจินอุค) ทนายความและหัวหน้าทีมฝ่ายคดีความแห่งสำนักงานกฎหมายยุลลิม เขาเป็นทนายความฝีมือดีและนักวางหมากที่สำคัญ  แต่ภายนอกเต็มไปด้วยความเย็นชา มักจะพูดเฉพาะสิ่งจำเป็นเท่านั้น  

ตรงกันข้ามกับ คังฮโยมิน (รับบทโดย จองแชยอน) ทนายฝึกหัดหน้าใหม่ ผู้เป็นที่หนึ่งของคณะ เธอมาพร้อมความมั่นใจ แม้จะยังไม่เชี่ยวชาญในการเล่นเกมกฎหมาย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในความถูกต้อง  

จากคู่ที่ไม่มีอะไรเข้ากันเลยทั้งสองรู้จักกันมากขึ้นผ่านแต่ละคดี ได้เรียนรู้กันและกันทีละเหตุการณ์ จนค่อย ๆ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่อบอุ่นหัวใจ

 


สรุปข่าว

Beyond The Bar กระจกสะท้อนความจริงในสังคมผ่านคดีที่ไม่อาจตัดสินด้วย “ถูก” หรือ “ผิด” เพียงอย่างเดียว เรื่องราวเข้มข้นทุกตอน พร้อมตั้งคำถามถึงความยุติธรรมที่แท้จริงในโลกที่เต็มไปด้วยความคลุมเครือ

นับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่การดูซีรีส์ทำให้เห็นแง่มุมใหม่ ๆ และเห็นหลากหลายเรื่องราวที่คาดไม่ถึง     Beyond The Bar เป็นซีรีส์ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงในตอนแรก แต่ในเวลาไม่นานกลับกลายเป็นซีรีส์เรตติ้งอันดับ 1 ทั้ง ๆ ที่ออกอากาศไปได้แค่ 4 ตอนเท่านั้น  นั่นหมายความว่าซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่

เรื่องย่อ  Beyond The Bar 

Beyond The Bar ภาพจาก : JTBC

เรื่องราวเริ่มต้นที่ ยุนซอกฮุน (รับบทโดย อีจินอุค) ทนายความและหัวหน้าทีมฝ่ายคดีความแห่งสำนักงานกฎหมายยุลลิม เขาเป็นทนายความฝีมือดีและนักวางหมากที่สำคัญ  แต่ภายนอกเต็มไปด้วยความเย็นชา มักจะพูดเฉพาะสิ่งจำเป็นเท่านั้น  

ตรงกันข้ามกับ คังฮโยมิน (รับบทโดย จองแชยอน) ทนายฝึกหัดหน้าใหม่ ผู้เป็นที่หนึ่งของคณะ เธอมาพร้อมความมั่นใจ แม้จะยังไม่เชี่ยวชาญในการเล่นเกมกฎหมาย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในความถูกต้อง  

จากคู่ที่ไม่มีอะไรเข้ากันเลยทั้งสองรู้จักกันมากขึ้นผ่านแต่ละคดี ได้เรียนรู้กันและกันทีละเหตุการณ์ จนค่อย ๆ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่อบอุ่นหัวใจ

 


คดีสะเทือนใจ ที่ไม่ใช่แค่ “ถูก” หรือ “ผิด”

 สิ่งที่ทำให้ Beyond The Bar น่าสนใจคือการนำเสนอคดีสีเทา ที่ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยกฎหมายเพียงอย่างเดียว ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมไม่ใช่เรื่องของการชนะหรือแพ้ในศาลเสมอไป แต่คือการต่อสู้เพื่อให้ผู้ที่เจ็บปวด…เจ็บปวดน้อยที่สุด

หนึ่งในคดีที่สะเทือนอารมณ์ คือคดีของพัคกีบอม ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ฝากเชื้ออสุจิไว้กับคลินิกก่อนเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งซึ่งอาจทำให้เขาเป็นหมัน แต่เมื่อกลับไปขอรับเชื้อคืนกลับพบว่าเชื้อทั้งหมดถูกทำลายจากความผิดพลาดของคลินิก

Beyond The Bar

ภาพจาก : JTBC

เขาไม่ได้แค่สูญเสียสิ่งมีค่าแต่คือการสูญเสียอนาคตที่เขาและภรรยาเฝ้ารอ โดยเฉพาะภรรยาที่อดีตถูกไฟคลอกจนหน้าเสียโฉมแต่การมีลูกคือความหวังเดียวที่ทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อ

ฉากที่พัคกีบอมร้องไห้ กรีดร้อง เรียกร้องความเป็นธรรม  ไม่ได้แค่เป็นภาพของความโกรธ แต่คือการสื่อถึงผู้สูญเสียที่ถูกระบบละเลย และที่น่าหดหู่คือเขากลับกลายเป็นจำเลยในคดีซะเองจากการทำลายข้าวของในโรงพยาบาลด้วยความสิ้นหวัง แม้ว่าในท้ายที่สุดคดีจะจบลงด้วยค่าชดเชยแต่มันก็ทิ้งคำถามที่เจ็บปวดไว้ว่า  "แม้ได้เงินชดเชย แต่หากต้องเสียอนาคตไป…นั่นเรียกว่าชนะหรือไม่?"

ถึงแม้ว่าเรื่องราวส่วนใหญ่ใน Beyond The Bar  จะวนเวียนอยู่ในห้องพิจารณาคดี แต่ Beyond The Bar กลับไม่รู้สึกซ้ำซาก เพราะแต่ละคดีไม่ธรรมดา เช่น คดีเชื้ออสุจิเสียหาย, คดีทำร้ายร่างกายเด็ก ที่ผู้ต้องสงสัยคือพ่อหรือแม่บ้านที่มีประวัติอาชญากรรม หรือ คดีรถชนแต่ไม่ได้เกิดจากการถูกชนจริง ๆ

ทุกคดีถูกออกแบบมาให้มีจุดพลิก จุดที่ทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นว่าความจริงที่เราคิดว่าเรารู้...อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็ได้



ปัจจุบันนี้  Beyond The Bar ทำเรตติ้งทั่วประเทศพุ่งสูงถึง 8.3%  และ 9% ในโซล  จากตอนแรกที่เปิดตัวมาแค่ 3% เท่านั้น สามารถรับชมความสนุกของ Beyond The Bar ได้ทาง Netflix

ที่มาข้อมูล : Netflix

ที่มารูปภาพ : Netflix, JTBC