
สรุปข่าว
กรมควบคุมโรค เผยข้อมูลเกี่ยวกับ "โรคร่าเริง" โดยระบุว่า ใครชอบ อดหลับอดนอน เสี่ยงเป็น สำหรับคนที่อดหลับอดนอนเป็นประจำ แล้วคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย เดี๋ยวก็หาเวลานอนทดแทนได้ อยากมาเตือนว่ามันไม่ดีอย่างยิ่ง เพราะการอดหลับอดนอนเป็นพฤติกรรมทำลายสุขภาพ และยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคร่าเริง
การใช้ชีวิตของคุณที่เสี่ยงเป็น “ โรคร่าเริง ” โรงพยาบาลมหาราชนครราชสี มีข้อมูลดังนี้
กลางคืน > คิดงานได้ก่อนนอน ไอเดียพรั่งพรู ทำงานสนุกทั้งคืนโดยไม่เบื่อไม่บ่น ไม่ออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังโดยอ้างว่าทำให้สมองแล่น
กลางวัน > อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ คิดอะไรก็คิดไม่ออก
ถึงชื่อโรคจะดูร่าเริงสนุกสนาน แต่ร่างกายของเราไม่ได้จะเริงร่าตามชื่อแม้แต่น้อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน รอบเดือนไม่ปกติ ขี้เหวี่ยงขี้วีน อาจทำให้สุ่มเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และโรคเบาหวาน ได้
ภาพจาก AFP
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสมิติเวช ได้มีการเผยแพร่บทความ โรค(ที่เกิดจากความ)ร่าเริง ของ พญ. พัชรนันท์ ศรีพัฒนวัชร์ สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสาธารณสุขศาสตร์ ดังนี้
โรคร่าเริง ไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่ได้มีเขียนไว้ในตำราและไม่มีชื่อโดยตรงเพราะเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมของคน สืบเนื่องจากพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำจนนำไปสู่โรคบางอย่างได้
เพราะเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ทำให้ชีวิตต้องปรับไปตามยุคสมัย ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนพฤติกรรมไปทำงานในเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นเวลาที่ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับการใช้ความคิด บางคนก็เลือกใช้ช่วงค่ำคืนท่องโลกโซเซียล จนล่วงเลยเวลาเข้านอน ส่งผลให้มีอาการง่วงเหงาหาวนอนตลอดทั้งวัน ถือเป็นการใช้วงจรชีวิตผิดเวลาอย่างยิ่ง เพราะร่างกายของคนเรามีการหลั่งฮอร์โมนตามนาฬิกาชีวิต เมื่อถึงเวลานอนอวัยวะบางส่วนยังคงทำงานเพื่อหลั่งฮอร์โมนฟื้นฟูร่างกายและชาร์จพลังเตรียมพร้อมรับมือกับวันต่อไป แต่หากเราใช้ช่วงเวลาวงจรชีวิตผิดปกติ ก็จะทำให้ฮอร์โมนผิดเพี้ยนไปด้วย พฤติกรรมการดำเนินชีวิตแบบกลางวันไม่อยากตื่น กลางคืนไม่อยากหลับ กลายเป็นภัยใกล้ตัวอย่างคาดไม่ถึง ส่งให้สุขภาพเสื่อมโทรมโดยไม่รู้ตัว
เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับชีวิตให้เริงร่าอย่างแท้จริง
-ปรับเวลานอนให้เป็นปกติ ควรเข้านอนตั้งแต่ไม่เกิน 4 ทุ่มหรืออย่างช้าสุด ไม่ควรเกินเที่ยงคืน เพื่อให้โกรทฮอร์โมนหลั่งได้เต็มที่ในช่วงเวลา 22.00-02.00 น.
-ออกกำลังกายเพิ่มการตื่นตัว การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นการทำงานของโกรทฮอร์โมนและสร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนตัวอื่นๆ การออกกำลังกายช่วงเช้า ช่วยให้ร่างกายสดชื่นและมีพลังตลอดทั้งวัน
-ปรับการกิน เพิ่มโปรตีนและลดแป้ง การได้รับคาร์โบรไฮเดรตในปริมาณที่มากเกินไป นอกจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้วยังมีผลให้เกิดการง่วงนอนในช่วงกลางวันได้ ลองหันมาเพิ่มปริมาณเนื้อสัตว์ เต้าหู้ และธัญพืชให้มากขึ้น เนื่องจากโปรตีนส่งผลให้ร่างกายกระฉับกระเฉงไม่อ่อนเพลีย สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ อาจหันมารับประทานแป้งในมื้อเย็นจะช่วยทำให้หลับสบายขึ้น แต่ในกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก อาจต้องเลี่ยงเป็นการรับประทานอาหารประเภทไฟเบอร์แทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปริมาณสารอาหารทั้งหมดควรสมดุลเหมาะสมกับร่างกายแต่ละคนด้วย การทำการวัดปริมาณสัดส่วนมวลต่างๆในร่างกายและปรึกษาแพทย์ก็จะช่วยแนะแนวทางการปฏิบัติตัวเหมาะสมมากขึ้น
-เติมวิตามินปรับสมดุลฮอร์โมน หากใช้ชีวิตแบบมนุษย์ร่าเริงมานาน การปรับตารางชีวิตใหม่ทันทีคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นควรลองปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจดูสมดุลฮอร์โมนและภาวะขาดวิตามิน เมื่อได้รับคำปรึกษาและวิตามินจากแพทย์ ก็จะสามารถกลับมามีวงจรชีวิตตามปกติได้
สร้างสุขนิสัยและวินัย ด้วยหลัก 8 อ. ห่างไกลโรคร่าเริงในระยะยาว
-อาหาร เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มที่
-ออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว สดชื่นและกระฉับกระเฉง
-ออกซิเจน ฝึกหายใจเข้า-ออกช้าๆ สูดออกซิเจนเข้าปอดให้เต็มที่ ช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายและคลายเคลียดได้ดี
-เอนกาย จัดสุขลักษณะที่ดีให้เหมาะสมกับการนอน รวมถึงเลือกรับประทานมื้อเย็นด้วยอาหารไม่หนักมากเกินไป และฝึกเข้านอนไม่เที่ยงคืนทุกวัน
อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใส่ ปลอดโปร่ง และไม่เครียด
-เอาพิษออก รับประทานอาหารเช้าทุกวัน เพื่อการขับถ่ายที่เป็นเวลา เอาสารพิษออกจากร่างกาย
อาชีพ หลายอาชีพที่ทำให้นาฬิกาชีวิตต้องเปลี่ยนไป หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรหาเวลาพักผ่อนและดูแลสุขภาพ แทนการเอาเวลาที่เหลือไปอยู่หน้าจอ แต่ถ้าทำงานช่วงกลางวันปกติได้ ก็ได้ควรปรับเวลาชีวิติให้เป็นปกติ ไม่โหลดงานไว้ทำช่วงกลางคืนมากเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี
-อิทธิบาท 4 คุณธรรมนำชีวิตสู่ความสำเร็จ 4 ประการ ฉันทะ (ความพอใจ) วิริยะ (ความเพียร) จิตตะ (ความคิด) วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) เริ่มด้วยมีใจอยากดูแลตัวเอง มีความเพียรที่จะกระทำ โดยการหาความรู้ และนำมาปฏิบัติดูแลตัวเอง เพื่อสุขภาพที่ดี กลับมามีชีวิตที่ร่าเริงอย่างแท้จริงตลอดไป
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค / โรงพยาบาลสมิติเวช / โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ภาพจาก AFP
- ป่วยโควิดรายสัปดาห์พุ่ง 6.5 หมื่นราย “วัยทำงานติดเชื้อสูงสุด”
- โควิด-19 ระบาดขาขึ้น คาดลากยาว 2 - 3 เดือน ชลบุรี - กทม. แชมป์ป่วย
- คนไทยป่วยความดันโลหิตสูง 7.4 ล้านคน น่ากลัวเพราะมักไม่มีอาการ
- สธ. แถลงสถานการณ์ โรคแอนแทรกซ์ โรคโควิด 19 และโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
- เตรียมรับอากาศร้อนจัด เปิดสถิติตายจาก "ฮีทสโตรก"
- ปี 2567 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก กว่า 1 แสนราย กระจายทั่วทุกจังหวัด
- ฤดูกาลระบาด! เตือนเข้าสู่ฤดูหนาวอาจพบผู้ป่วยโรค “ไข้หวัดใหญ่” เพิ่มขึ้น
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand