
สรุปข่าว
รู้จัก “โรคปลายประสาทอักเสบ” อาการเป็นอย่างไร รักษาหายได้หรือไม่?
โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral neuropathy) เป็นภาวะหนึ่งของระบบประสาทส่วนปลาย ที่ทำหน้าที่รับส่งคำสั่งจากสมองและไขสันหลังไปส่งไปยังอวัยวะต่างๆ เกิดความเสียหายจากการบาดเจ็บ หรือติดเชื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆตามมา เช่น ความเจ็บปวดคล้ายถูกเข็มแทง อาการแสบร้อน หรืออาการคล้ายแมลงไต่ และอาการเหล่านี้สามารถดีขึ้นจนหายเป็นปกติได้หากรักษาอย่างถูกต้อง
โรคปลายประสาทอักเสบ เกิดจากอะไร?
สาเหตุของโรคปลายประสาทอักเสบ คือความเสียหายของเส้นประสาทที่เกิดจากเงื่อนไขต่างๆ เช่น การบาดเจ็บ การติดเชื้อ เป็นต้น ส่วนปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคนี้ ได้แก่
• โรคเบาหวาน โดยผู้ป่วยโรคเบาหวาน 50% ขึ้นไป มีโอกาสเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ และนี่ยังเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดอีกด้วย
• การติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด เช่น โรคไลม์ (Lyme disease) โรคงูสวัด ไวรัสตับอักเสบบีและซี โรคเรื้อน โรคคอตีบ และผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น
• พันธุกรรม ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถนำไปสู่การเป็นโรคปลายประสาทอักเสบได้
• เนื้องอกและมะเร็ง ที่มีแนวโน้มกดทับหรือกระจายไปยังเส้นประสาท รวมถึงโรคมะเร็งกระดูก และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
• ความผิดปกติของไขกระดูก รวมถึงโรคที่เกิดจากการสะสมโปรตีนในเลือดที่ผิดปกติ (monoclonal gammopathies)
• การสัมผัสกับสารพิษบางชนิด
• การเกิดอุบัติเหตุ ที่สามารถกระทบกระเทือนและทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย
• การขาดวิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินอี และไนอาซิน ซึ่งเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อระบบประสาท
• โรคภูมิต้านตนเอง รวมถึงกลุ่มอาการของโรคโจเกรน (Sjogren's syndrome) ลูปัส (Lupus) โรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) และการอัเสบของผนังหลอดเลือด (Necrotizing vasculitis) เป็นต้น
• โรคอื่นๆ ได้แก่ โรคไต โรคตับ ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และโรคไทรอยด์
อาการของโรคปลายประสาทอักเสบ ที่สามารถพบได้บ่อย
สำหรับอาการของโรคปลายประสาทอักเสบ ที่สามารถพบได้บ่อยๆ มีดังนี้
• อาการชา บริเวณปลายมือและเท้า บางกรณีสามารถลามไปบริเวณแขนและขาได้
• อาการคล้ายถูกเข็มหรือของมีคมทิ่มแทง
• ปวดแสบปวดร้อนบริเวณแขนและขา หรือมีอาการบวมแดงร่วมด้วย
• อาการปวดที่หาสาเหตุไม่ได้ เช่น ปวดเท้าเมื่อลงน้ำหนักหรือเมื่ออยู่ใต้ผ้าห่ม
• สูญเสียการทรงตัว และหกล้มง่าย
• กล้ามเนื้ออ่อนแรง
• มีความรู้สึกเหมือนสวมถุงมือหรือถุงเท้าอยู่ตลอดเวลา
• แพ้ความร้อน เหงื่อออกมาก หรือไม่สามารถขับเหงื่อได้
• ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรือระบบย่อยอาหาร มีปัญหาตามมา
• เกิดอาการวิงเวียนหรือหน้ามืดเนื่องจากความดันโลหิตต่ำ
การรักษาภาวะโรคปลายประสาทอักเสบ
การรักษาภาวะโรคปลายประสาทอักเสบ สามารถทำได้หลายวิธี โดยจะประเมินจากสาเหตุและลักษณะอาการ ดังนี้
• ในกรณีที่ไม่รุนแรง จะเป็นการรักษาโดยให้ยาบรรเทาอาการปวด เช่น ยาลดการอักเสบ (NSAIDs)
• การใช้ยาที่มีส่วนประกอบของโอปิออยด์ (Opioid) ซึ่งเป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น
• ยาใช้เฉพาะที่ เช่น ยาทาหรือยาแปะ เพื่อลดอาการปวด
• การรักษาโดยใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทผ่านทางผิวหนัง (Transcutaneous electrical nerve stimulation) เพื่อลดความเจ็บปวด ซึ่งวิธีนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน
• บางกรณี ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง (Plasmapheresis) ซึ่งเป็นการนำแอนติบอดี้และโปรตีนออกจากเลือด และนำเลือดที่ถูกกรองแล้วกลับเข้าไปในร่างกาย
• กรณีผู้ป่วยมีปัญหาการอักเสบ ต้องมีการให้อิมมูโนโกลบูลิน (Intravenous immunoglobulin) เพื่อยับยั้งระบบภูมิคุ้มกัน
• การผ่าตัด เพื่อลดแรงกดทับ กรณีผู้ป่วยมีสาเหตุจากการกดทับเส้นประสาทจากเนื้องอก
• การรักษาโดยกายภาพบำบัด เพื่อพัฒนาการเคลื่อนไหวของร่างกายและกล้ามเนื้อ
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลศิครินทร์
ที่มาภาพ : freepik
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand