
สรุปข่าว
รู้จักภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเสี่ยงเกิดอัมพาต ที่คนเลี้ยงสัตว์ต้องระวังหากถูก "เห็บ" กัด
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยข้อมูล เห็บ มีหลายชนิดเป็นพาหะนำโรคติดเชื้อ มักอาศัยอยู่บริเวณต้นหญ้าสูง ๆ หรือเกาะอยู่กับสัตว์เลี้ยง เช่น หมา หรือ แมว ซึ่งถ้าถูกเห็บกัดจะไม่มีอาการเจ็บ เพราะในน้ำลายของเห็บมีสารที่ทำให้เกิดอาการชาเฉพาะที่ แต่อาการที่เห็นชัดเจน คือมีตุ่มนูนบวมแดง ในบางรายที่มีอาการแพ้อาจมีไข้ หรือผื่นลมพิษกำเริบได้
ดังนั้นการรักษาที่ถูกวิธีจะช่วยให้หายจากอาการผื่น บวมแดง หรือแม้กระทั่งอาการอัมพาตชั่วคราวได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อถูกเห็บกัดเบื้องต้นให้คีบหัวของเห็บแล้วค่อยดึงออกขึ้นตรง ๆ แต่ต้องระวังอย่าคีบบริเวณลำตัว หรือท้องของเห็บ และไม่บิดคีมขณะที่กำลังคีบเพราะจะทำให้ส่วนปากของเห็บยังคงค้างอยู่ในผิวหนัง จะทำให้อาการเรื้อรังตามมาได้ หลังจากเอาตัวเห็บออกใช้ยาทาลดการอักเสบ บวมแดง
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
ในกรณีที่อาการบวมแดงรุนแรงจำเป็นต้องฉีดยาใต้ผิวหนังแต่ต้องให้แพทย์พิจารณาการรักษาเฉพาะราย โดยทั่วไปอาการที่เกิดจากเห็บกัดมีเพียงอาการเฉพาะที่ พบน้อยมากในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เกิดอัมพาตหลังจากถูกเห็บกัด
ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัวจากนั้นระยะเวลาไม่นานจะเกิดเป็นอัมพาต ซึ่งภาวะนี้อาจนำไปสู่ภาวะระบบหายใจล้มเหลวเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาการอัมพาตมักเกิดหลังจากถูกเห็บกัด 4-6 วัน
ดังนั้นควรรีบคีบเห็บออกจากผิวหนังทันทีอาการอัมพาตก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจาก กรมการแพทย์
ภาพจาก AFP
- หมอเด็กแนะวิธีการรักษาโควิดในเด็กเบื้องต้น
- กำลังใจล้นโซเชียลถึง "อั้ม พัชราภา" หลังสูญเสียสุนัขสุดที่รัก
- มะเร็งผิวหนัง ชนิดที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง? เช็กอาการ ปัจจัยเสี่ยง
- โรงพยาบาลราชวิถี ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดสำเร็จเป็นรายแรกของโรงพยาบาลและกรมการแพทย์
- หมา-แมว โดนทิ้ง เซ่นพิษเศรษฐกิจ คนอังกฤษจ่ายไม่ไหว
- สถาบันประสาทวิทยาโชว์ นวัตกรรมหุ่นยนต์กล้องผ่าตัด ความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยง
- โรคกลัวการกระพริบตา รักษาได้หรือไม่? ความกลัวแปลก ๆ ที่มีอยู่จริง
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand