เยาวชน 1.4 ล้านคน เสี่ยงป่วยเป็น ‘โรคติดพนัน’ เสี่ยงภาวะซึมเศร้า

ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดผลสำรวจปี 2566 พบผู้เล่นพนันออนไลน์มากถึง 3 ล้านคน  ขณะที่คนรุ่นใหม่กว่า 1.4 ล้านคนมีความเสี่ยงเป็นนักพนันที่เป็นปัญหานำไปสู่โรคติดพนัน   สสส. และ ภาคีเครือข่าย จึงร่วมกันขับเคลื่อนให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย พร้อมรณรงค์ให้เยาวชนรู้เท่าทันพิษภัยจากการพนัน  

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร่วมลงนามความร่วมมือสร้างทักษะการรู้เท่าทันการพนันเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชน 

นพ. ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ระบุว่า ข้อมูลของปี 2566 พบว่ามีผู้เล่นพนันถึง 3 ล้านคน และ พบว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่เป็นจำนวนเกือบครึ่ง โดยการพนันสร้างปัญหาในด้านเศรษฐกิจ และ เป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคซึมเศร้า  ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการป้องกัน ไม่ให้เด็กเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน 

โดยเฉพาะการออกกฎหมายที่ต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัย และ คำนึงถึงผลกระทบในวงกว้าง จึงเป็นที่มาของการทำงานร่วมกันกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และหลายภาคส่วน เพื่อนำไปสู่การพัฒนานโยบายกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการสร้างนักรณรงค์รุ่นใหม่ขึ้นมา ให้เป็นแนวหน้าในการทำงานและสร้างการตระหนักรู้ให้เด็กและเยาวชน ให้เห็นความสำคัญของภัยจากการพนัน 

สำหรับผลสำรวจพฤติกรรมพนันออนไลน์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 15-25 ปี ทั่วประเทศ จำนวน 5,010 ตัวอย่าง ระหว่างเดือน ม.ค. - ก.พ. 2566 โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า เล่นพนันออนไลน์กว่า 3 ล้านคน ผ่านการกระตุ้นชักชวนผ่านสื่อออนไลน์แต่ละแพลตฟอร์มอย่างกว้างขวาง ซึ่งคนรุ่นใหม่ประมาณ 1.4 ล้านคน เสี่ยงกลายเป็นนักพนันที่เป็นปัญหา นำไปสู่โรคติดพนัน ที่มีผลโดยตรงต่อสมอง เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย และใช้สารเสพติดสูงกว่าคนทั่วไปถึง 2-5 เท่า ส่วนด้านสภาพแวดล้อมพบว่ามีถึงร้อยละ 97 ที่มีคนรู้จักการเล่นพนัน นอกจากนี้ยังมีการแชร์ บอกต่อ หรือชักชวนให้ร่วมเล่นพนันอีกจำนวนมาก

ภาพจาก: AFP