“ไข้อีดำอีแดง" โรคติดต่อในเด็กที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

“ไข้อีดำอีแดง" โรคติดต่อในเด็กที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

ผื่นแดง ไข้สูง ลิ้นแดง สัญญาณเตือนภัยของ "ไข้อีดำอีแดง" ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม โรคที่อาจดูคล้ายไข้หวัด มีผื่นทั่วไป แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่ส่งผลต่อหัวใจและไต เช่น โรคหัวใจรูมาติก หรือไตอักเสบ

นายแพทย์สุรวัช หอมวิเศษ กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pyogenes หรือ Group A Streptococcus (GAS) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อนี้สามารถผลิตสารพิษที่ทำให้เกิดผื่นแดงทั่วร่างกายและลิ้นแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของไข้อีดำอีแดง

สรุปข่าว

ผื่นแดง ไข้สูง ลิ้นแดง สัญญาณเตือนภัยของ "ไข้อีดำอีแดง" ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม โรคที่อาจดูคล้ายไข้หวัด มีผื่นทั่วไป แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่ส่งผลต่อหัวใจและไต เช่น โรคหัวใจรูมาติก หรือไตอักเสบ

ผื่นแดง ไข้สูง ลิ้นแดง สัญญาณเตือนภัยของ "ไข้อีดำอีแดง" ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม โรคที่อาจดูคล้ายไข้หวัด มีผื่นทั่วไป แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่ส่งผลต่อหัวใจและไต เช่น โรคหัวใจรูมาติก หรือไตอักเสบ

นายแพทย์สุรวัช หอมวิเศษ กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pyogenes หรือ Group A Streptococcus (GAS) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อนี้สามารถผลิตสารพิษที่ทำให้เกิดผื่นแดงทั่วร่างกายและลิ้นแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของไข้อีดำอีแดง

โรคไข้อีดำอีแดง สามารถติดเชื้อผ่านละอองฝอยในอากาศ การไอ จาม หรือพูดคุยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ สัมผัสสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อ การใช้สิ่งของร่วมกัน

กลุ่มที่พบโรคนี้ได้บ่อยคือ เด็กอายุ 5-15 ปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในที่แออัด เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกัน โดยมีอาการดังนี้

-ไข้สูง

-ผื่นแดง ลักษณะเป็นเม็ดเล็ก คล้ายกระดาษทราย เกิดได้ที่ลำตัว คอ แขนและขา

-ลิ้นแดงคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี (Strawberry tongue)

หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โรคนี้จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ไข้รูมาติก (Rheumatic fever) ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ, ลิ้นหัวใจอักเสบ, ข้ออักเสบ และภาวะไตอักเสบจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส (Post-streptococcal glomerulonephritis) โรคไข้อีดำอีแดง สามารถรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้ และยาบรรเทาอาการ ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ และแยกของใช้ส่วนตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

สามารถป้องกันโรคด้วยสุขอนามัยที่ดีได้ ควรเริ่มจากการล้างมือ หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน และรีบพบแพทย์หากมีอาการต้องสงสัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากไข้อีดำอีแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

avatar

TNNThailand