
จากกระแสข่าวของโตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้องดัง ที่มีการกล่าวถึงพิธีกรรมทางความเชื่อเกี่ยวกับการแช่วาน ซึ่งเป็นความเชื่อด้านไสยเวท วิชาอาคม กลายเป็นพิธีกรรมโบราณ ที่ศิษย์วัดเขาอ้อ และชาวบ้านทั่วไปมีความเชื่อว่าผู้ที่ได้ผ่านขนตอนพิธีกรรมแช่ว่านยาจะทำให้บุคคลนั้นมี ตบะ อำนาจอย่างเสือ อดทนอย่างหมีและเข้มแข็งอย่างเหล็กกล้า แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงสามารถแก้ โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้ามองในแง่ของการบำบัดรักษา การแช่ว่านของคนโบราณมีสรรพคุณ ช่วยในเรื่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทางเลือกตามความเชื่อที่รักษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เช่น รักษาอาการปวดข้อปวดกระดูก ช่วยให้เลือดลมลมไหลเวียน รักษาโรคผิวหนัง เป็นต้น ทั้งนี้ผู้เขียนต้องขอย้ำว่าการแช่ว่านเพื่อการรักษายังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลแล้วการแช่สมุนไพรช่วยเรื่องสุขภาพได้จริงหรือไม่

สรุปข่าว
การแช่สมุนไพรช่วยเรื่องสุขภาพได้จริงหรือไม่
คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “โดยทั่วไปแล้วถ้าพูดถึงแพทย์แผนจีนทุกคนก็จะรู้จักการแช่มือแช่เท้าด้วยน้ำร้อน หรือยาสมุนไพรจีนอยู่แล้ว ซึ่งมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลร่างกาย ระบบไหลเวียนเลือด ลดอาการปวด ทำให้นอนหลับดี”
ในทางแพทย์แผนจีน “มู่อวี้หย่าง หรือ แช่น้ำเพื่อสุขภาพตามหลักแพทย์แผนจีน” ไม่ใช่แต่การแช่เพียงน้ำอย่างเดียว แต่สามารถแช่ได้ทั้ง โคลน ทราย แสงแดด อากาศบริสุทธิ์ หรือยาสมุนไพรจีน เป็นต้น โดยมีแนวคิดที่ว่า ธาตุ หรือสสารทางธรรมชาติเหล่านี้ มีสรรพคุณทำให้ร่างกายแข็งแรง บำรุงกำลัง ลดการปวดเมื่อย และทำให้อายุยืนยาว
กลับมาที่แพทย์แผนไทยบ้าง ต้องยอมรับว่าผู้เขียนพยายามหาข้อมูลอย่างมากเกี่ยวการแช่สมุนไพรทั้งตัวเพื่อใช้ในการรักษาโรคที่ได้รับการรองรับโดยกระทรวงสาธารณสุขของไทยแต่หาไม่พบ พบเพียงแต่เรื่องของการแช่เท้าด้วยตำรับยาสมุนไพร
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ระบุถึงประโยชน์ของการแช่มือแช่เท้าเป็นการใช้อุณหภูมิของน้ำอุ่นและสมุนไพร คลายกล้ามเนื้อและช่วยปรับสมดุลร่างกาย หากปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการชาที่ปลายมือปลายเท้าและลดการปวดตามข้อนิ้วมือ และนิ้วเท้า
นอกจากนี้ยังมีผลผลการศึกษา โดยโรงพยาบาลพนา จังหวัดอำนาจเจริญ ว่า การแช่เท้าด้วยตำรับยาสมุนไพรต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มารับบริการในคลินิกโรคเรื้อรัง จากการวิจัยได้นำสมุนไพรแช่เท้าไปใช้ในงานคลินิกโรคเรื้อรังผสมผสานกับแพทย์แผนปัจจุบันในการดูแลผู้ป่วยที่มีค่า BPสูงเกิน 140/90mmHg.ใน รพ.พนาทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ เป็นต้นเป็นการบูรณาการศาสตร์การรักษาแผนไทยกับแผนปัจจุบันทำให้ผู้ป่วยคลายเครียดลดความวิตกกังวล ผ่อนคลายช่วยลด BP และช่วยลดอาการมึนชาเท้าในผู้ป่วยเบาหวานร่วมด้วย ถือว่าเป็นการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง HT,DM ไขมัน อีกทางเลือกหนึ่งด้วย
สมุนไพร หรือ ว่านยา 108 ชนิด มีอะไรบ้าง
สุดท้ายถ้าผู้อ่านอ่านมาถึงช่วงสุดท้ายผู้เขียนจึงอยากจะตอบข้อสงสัยของหลาย ๆ ท่าน รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วยว่าในการแช่วาน ว่านยา 108 ชนิด มีอะไรบ้าง
ว่านยา 108 ชนิด จะประกอบไปด้วย บอระเพ็ด (เจ็ดหมูน) ชิงข้าชาลี ฝอยยง ข่อยชนิดหนาม กำลังควายถึก กำลังคชสาร กำแพงแก้วเจ็ดชั้น โคกกระสุน พระยาช้างดำ พระยาช้างชัก เปล้าน้อย เปล้าใหญ่ เปล้าเงิน ขุนไม้ พระยาไม้ ฝอยนางทั้งสาม ไม้ค้อนตีหมา ย่านไม้เท้าฤาษี ย่านไดลิง ย่านพดลิง ย่านเท้าพันราก สาวเหล้า สาวหยุดหัวร้อยรู สมุนแว้ง ย่านอีอุย ก้ามกุ้งขึ้น มะเขือชื่น ชุมเห็ด ชุมแสง กุราเปลี้ย ส้มกุ้งน้อย ส้มกุ้งใหญ่ ว่านสบู่เลือด เต่าหนังแห้ง สบู่หนังแห้ง สามพันตึง เหล็กไหล กระทู้เจ็ดแบก ขันทองพยาบาทเฉียงพร้านางแอ บู่เจ้าเขาเขียว โดไม่รู้ล้ม พระยามือเหล็ก พระดาบหัก อ้ายต้าน อ้ายหนังเหนียว อ้ายหนังนุ้ย อ้านหนังใหญ่ อ้ายหนังขน ฝนแสนห่า กำลังหนุมาน หนุมานนั่งแท่น หนุมานประสานกาย หนุมานยกทัพ เอ็นเหลือง ว่านหัวนวม กาหลาต้นไม้ ยาหนู เข็มตอกแดง เข็มดอกขาว เข็มข้าง เทพทาโร ทนดี ชิงซี่ ย่านเอ็น ม้าทั้งสอง ย่านกระดูก ไม้ตาเสือ พิสังกาสา คนที่ดำ ไม้คานหามเสือ พานงูแดง พานงูเขียว ทุ้งฟ้า หนาดเหนียด ไม้เดือ กุมน้ำ กุมบก เนื้อไม้ หลักได ต้นตายปลายเป็น พ้อ ลิงโลด เล็บมือนาง มือหนุมาน มือพระนารายณ์ ม้าเหล็ก บัวเหล็ก ขี้เหม้าเหล็ก ขี้หมาเป็นเหล็ก เถาวัลย์เปรียง เถามวกทั้งสอง คนทา น้ำนอง เท้ายายหม่อม หัวหมากหมก ดูกได้ เดือยไก่ ตาเป็ดตาไก่ วัวหายทั้งสาม ชิงดอกเดียว หนาม 108 (ยกเว้นหนามหวายกับหนามระก้า) แก่นขี้เหล็ก แก่นตำเสา ย่านผ้าร้ายห่อทอง รากไมยราพ พาโหม ตีนเป็ด ไม้ไหลเผือก อ้านกลิ้งกลางดง อ้ายคงกลางดอน ฤๅษีสมกำลังคชสาร ปราบทวีป เต่าอึ้ง เพชรน้อย เพชร์ใหญ่ เพรชม้า เพชรตาเหลือก ขมิ้นอ้อย พญาหัวเดียว พญาแร้งดำกงจักรพระอินทร์ หอกโมกศักดิ์ เป็นต้น
ซึ่งว่านยาทั้งหมดก่อนจะนำออกจากป่าได้นั้นต้องทำพิธีบวงสรวงเสียก่อนจากนั้นนำว่านยา หรือสมุนไพรที่ได้มาแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนที่ใส่ลงไปในอ่างแช่ยาและส่วนที่นำไปตำให้ละเอียด