วันชานมไข่มุกแห่งชาติ 30 เมษายน แนะวิธีดื่มอย่างไรให้อร่อย-ห่างไกลโรค

วันชานมไข่มุกแห่งชาติ 30 เมษายน แนะวิธีดื่มอย่างไรให้อร่อย-ห่างไกลโรค

วันชานมไข่มุกแห่งชาติ (National Bubble Tea Day) หรือ วันชาไข่มุก ซึ่งจะตรงกับวันที่ 30 เมษายน ของทุกปีโดยเริ่มมาจากที่ ร้านชากังฟู (Kung Fu Tea) ซึ่งเป็นร้านชานมไข่มุกเจ้าดังมีหลายสาขาทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นผู้จุดประกายไอเดีย กำหนดให้วันที่ 30 เมษายน ของทุกปีเป็น "วันชานมไข่มุกแห่งชาติ" 

สรุปข่าว

วันชานมไข่มุกแห่งชาติ 30 เมษายน แนะไม่ควรดื่มเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน สัปดาห์ละ 1 - 2 แก้วและควรหมั่นออกกำลังกาย เพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายได้รับ

วันชานมไข่มุกแห่งชาติ (National Bubble Tea Day) หรือ วันชาไข่มุก ซึ่งจะตรงกับวันที่ 30 เมษายน ของทุกปีโดยเริ่มมาจากที่ ร้านชากังฟู (Kung Fu Tea) ซึ่งเป็นร้านชานมไข่มุกเจ้าดังมีหลายสาขาทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นผู้จุดประกายไอเดีย กำหนดให้วันที่ 30 เมษายน ของทุกปีเป็น "วันชานมไข่มุกแห่งชาติ" 

ข้อมูลจาก กรมอนามัย ระบุไว้ว่า คนที่จะดื่มชานมไข่มุกต้องประเมินตนเองด้วยว่าเสี่ยงต่อภาวะอ้วนหรือไม่ เพราะหากดื่มเป็นประจำอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็วและนำไปสู่การเป็นโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือดได้ เนื่องจากชานมไข่มุกส่วนใหญ่เป็นการเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม นมผง ครีมเทียม และไข่มุกลงในชา ซึ่งทำให้ได้พลังงานมากขึ้นกว่าน้ำชาทั่วไปมาก 

ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน ประมาณ 240 - 360 กิโลแคลอรี

ข้อมูลทางโภชนาการระบุว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน ประมาณ 240 – 360 กิโลแคลอรี โดยร่างกายจะได้รับคาร์โบไฮเดรต 45 – 62 กรัม ไขมัน 0 – 14 กรัม  โปรตีน 0.4 – 2 กรัม ความแตกต่างของพลังงานและสารอาหารขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ไข่มุก นมผง และครีมเทียมที่ใส่ลงไป ซึ่งไข่มุกที่อยู่ในชานมไข่มุกนั้น ผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง จัดอยู่ในอาหารหมวดเดียวกับแป้งและน้ำตาล โดยไข่มุก 30 กรัม ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี ซึ่งพลังงานที่ได้จากการดื่มชานมไข่มุก 1 แก้ว โดยประมาณ ใกล้เคียงกับการกินก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม หรือเท่ากับข้าวประมาณ 3 – 4 ทัพพี

ชานมไข่มุก 1 แก้ว ได้รับพลังงานค่อนข้างสูง

การดื่มชานมไข่มุก 1 แก้ว นั้น จะได้รับพลังงานค่อนข้างสูง เทียบเท่ากับพลังงานจากการกินอาหารปกติ 1 มื้อ โดยประมาณ และสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงคือ น้ำตาลที่ใส่ ลงในชานมและไข่มุก ถือเป็นพลังงานสูญเปล่า (Empty Calories) คือได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว โดยไม่มีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย 

ซึ่งหลายการศึกษาระบุว่า การได้รับน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลและระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงขึ้นได้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็น   โรคอ้วน  เบาหวาน และหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ ครีมเทียมที่ใส่ลงในชานมส่วนใหญ่ผลิตจากไขมันปาล์ม ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวค่อนข้างสูง ส่งผลต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่นเดียวกัน

แนะสัปดาห์ละ 1 - 2 แก้ว ทางเลือก ดื่มชานมไข่มุกเพื่อสุขภาพ 

ทั้งนี้ หากในวันนั้นต้องการดื่มชานมไข่มุก ก็ควรคำนึงถึงพลังงานที่ได้รับ และควรลดปริมาณการบริโภคอาหารกลุ่มข้าวแป้ง และน้ำตาลจากอาหารชนิดอื่น ๆ ในมื้ออื่น ๆ ลง หรืออาจลดปริมาณน้ำตาลที่ใส่ในชานมไข่มุก และควรหลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมลงในชานมไข่มุกที่สั่ง และควบคุมความถี่ในการเลือกดื่ม 

ไม่ควรดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน  แนะนำสัปดาห์ละ 1 – 2 แก้วก็เพียงพอแล้ว และควรหมั่นออกกำลังกาย  เพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันด้วย 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ชานมไข่มุก" อาวุธลับไต้หวัน ครองใจคนทั่วโลก

"ชานมไข่มุก" 1 แก้วให้อะไรกับเราบ้าง?


ที่มาข้อมูล : กรมอนามัย

ที่มารูปภาพ : Getty Images