"ชานมไข่มุก" อาวุธลับไต้หวัน ครองใจคนทั่วโลก

"ชานมไข่มุก" อาวุธลับไต้หวัน ครองใจคนทั่วโลก

วันที่ 30 เมษายนของทุกปี เป็นวันชานมไข่มุกโลก ซึ่งชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มจากไต้หวันที่ครองใจคนทั้งโลกได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ไต้หวันกลายเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก ในฐานะถิ่นกำเนิดของชานมไข่มุก จากเดิมที่คนทั่วโลกอาจจะนึกไม่ออกว่าไต้หวันมีอะไรน่าสนใจบ้าง แต่พอมีชานมไข่มุกดังขึ้นมาอย่างหนึ่งแล้ว ก็ทำให้การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ศิลปะ ดนตรีของไต้หวัน ได้รับผลพลอยได้ โด่งดังขึ้นตามไปด้วย

 ก่อนที่ชานมไข่มุกจะกลายเป็นเครื่องดื่มที่โด่งดังไปทั่วโลก คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักหรือสนใจอะไรเกี่ยวกับไต้หวัน แม้ไต้หวันจะมีเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแรง มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ธรรมชาติสวยงาม และอาหารอร่อยไม่แพ้ที่ไหนในโลก แต่ไต้หวันก็ถูกคนทั่วโลกหลงลืม เพราะไต้หวันขาดสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่จะทำให้คนทั่วโลกจดจำ จนกระทั่ง ร้านน้ำชาสองแห่งในไต้หวัน คือร้าน Chun Shui Tang กับร้าน Hailin Tea Room ได้เริ่มนำก้อนแป้งที่นิยมใส่ในขนมหวานของไต้หวัน มาใส่ลงในน้ำชาผสมนม จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนชื่นชอบ และถือว่าเป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมการดื่มน้ำชา ที่ค่อนข้างโบราณ ให้มีความทันสมัย เข้ากับคนรุ่นใหม่

 หลังจากนั้น ชานมไข่มุกเริ่มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทั้งสองร้านมีการฟ้องร้องแย่งจดสิทธิบัตรกันอย่างรุนแรงซึ่งการพิจารณาคดียืดเยื้อนานหลายสิบปี จนในปี 2019 ศาลไต้หวันตัดสินว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้  และชานมไข่มุกถือว่าเป็นสมบัติของทุกคน

สรุปข่าว

วันที่ 30 เมษายนเป็นวันชานมไข่มุกโลก มาดูกันว่าเครื่องดื่มหวาน ๆ จากไต้หวันแก้วนี้ กลายเป็นปรากฎการณ์ทางวัฒนธรรมไปทั่วโลก และทำให้ไต้หวันกลายเป็นที่จดจำได้อย่างไร

วันที่ 30 เมษายนของทุกปี เป็นวันชานมไข่มุกโลก ซึ่งชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มจากไต้หวันที่ครองใจคนทั้งโลกได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ไต้หวันกลายเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก ในฐานะถิ่นกำเนิดของชานมไข่มุก จากเดิมที่คนทั่วโลกอาจจะนึกไม่ออกว่าไต้หวันมีอะไรน่าสนใจบ้าง แต่พอมีชานมไข่มุกดังขึ้นมาอย่างหนึ่งแล้ว ก็ทำให้การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ศิลปะ ดนตรีของไต้หวัน ได้รับผลพลอยได้ โด่งดังขึ้นตามไปด้วย

 ก่อนที่ชานมไข่มุกจะกลายเป็นเครื่องดื่มที่โด่งดังไปทั่วโลก คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักหรือสนใจอะไรเกี่ยวกับไต้หวัน แม้ไต้หวันจะมีเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแรง มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ธรรมชาติสวยงาม และอาหารอร่อยไม่แพ้ที่ไหนในโลก แต่ไต้หวันก็ถูกคนทั่วโลกหลงลืม เพราะไต้หวันขาดสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่จะทำให้คนทั่วโลกจดจำ จนกระทั่ง ร้านน้ำชาสองแห่งในไต้หวัน คือร้าน Chun Shui Tang กับร้าน Hailin Tea Room ได้เริ่มนำก้อนแป้งที่นิยมใส่ในขนมหวานของไต้หวัน มาใส่ลงในน้ำชาผสมนม จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนชื่นชอบ และถือว่าเป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมการดื่มน้ำชา ที่ค่อนข้างโบราณ ให้มีความทันสมัย เข้ากับคนรุ่นใหม่

 หลังจากนั้น ชานมไข่มุกเริ่มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทั้งสองร้านมีการฟ้องร้องแย่งจดสิทธิบัตรกันอย่างรุนแรงซึ่งการพิจารณาคดียืดเยื้อนานหลายสิบปี จนในปี 2019 ศาลไต้หวันตัดสินว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้  และชานมไข่มุกถือว่าเป็นสมบัติของทุกคน

จากนั้น เราจึงได้เห็นร้านชานมไข่มุกเปิดใหม่หลายแบรนด์ และขยายสาขาไปทั่วไต้หวัน ก่อนที่จะเริ่มขยายสาขาไปยังต่างประเทศอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน โดยภูมิภาคที่ชื่นชอบชานมไข่มุกมากที่สุด ก็คือเอเชียแปซิฟิก และประเทศไทยก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศที่ดื่มชานมไข่มุกมากที่สุดในโลก 

 ร้านชานมไข่มุกยังแพร่กระจายไปไกลถึงชาติตะวันตก อย่างในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย ผ่านชุมชนชาวเอเชียที่อยู่ในประเทศนั้น และทุกที่ที่ร้านชานมไข่มุกไปถึง ก็ทำให้ไต้หวันเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย เพราะรัฐบาลของไต้หวันก็พยายามอย่างหนักที่จะโปรโมทการท่องเที่ยวของไต้หวันว่าเป็นสถานที่กำเนิดของชานมไข่มุก ทำให้ร้านชานมไข่มุกทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อะไร จึงเปรียบเสมือนตัวแทนการท่องเที่ยวของไต้หวันไปโดยปริยาย 

ปัจจุบัน นอกจากกาแฟแล้ว ก็มีชานมไข่มุกนี่แหละที่เป็นเครื่องดื่มขายดีที่คนทั่วโลกซื้อดื่มเป็นประจำทุกวัน และมีการปรับรสชาติให้ทันสมัยและเข้ากับกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละประเทศตลอดเวลา แม้จะเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะชานมไข่มุก ได้หลุดพ้นจากการเป็นเครื่องดื่มแฟชั่น ที่มาแล้วก็ไป กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ส่งต่อจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งไปแล้ว และช่วยตอกย้ำให้ไต้หวันเป็นที่จดจำของคนทั่วโลกในฐานะสถานที่กำเนิดของชานมไข่มุก

ที่มาข้อมูล : TNN World

ที่มารูปภาพ : TNN World