
มีรายงานผู้หญิงวันกลางคน อายุประมาณ 30-40 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะความดันโลหิตสูงเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ ที่น่าสนใจคือส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ๆ มีคุณภาพอากาศแย่ นักวิจัยสันนิษฐานว่า นี่อาจเป็นผลจากมลพิษในอากาศ
แม้ว่าทุกคนทราบกันเป็นอย่างดีว่า มลพิษในอากาศ อย่างเช่น ฝุ่นละออง PM2.5 ทำร้ายระบบทางเดินหายใจ แต่ในรายงานชิ้นล่าสุดนี้ ทำให้เห็นว่าผลกระทบต่อสุขภาพในบางเรื่อง อาจร้ายแรงในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งมาจากความแตกต่างของระบบร่างกาย ชีวภาพ และฮอร์โมน
ความน่ากลัวมีมลพิษมากกว่า 1 ชนิด ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงเกิดภาวะความดันโลหิตสูง และก็แทบละเป็นสารต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นPM2.5 ไอเสียจากยานพาหนะ การปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า และแม้แต่กิจกรรมภายในอาคาร เช่น การเผาเทียนหรือยาสูบ ล้วนก็ส่งผลต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง
นอกจากนี้ คาร์บอนดำ ซึ่งมีอยู่ใน PM2.5 และควันไฟจากการเผาไหม้ เป็นตัวเพิ่มความเสี่ยง หรือ ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂) ซึ่งปล่อยออกมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลในยานพาหนะ โรงไฟฟ้า และเตาแก๊ส ก็อันตรายไม่แพ้กัน
สรุปข่าว
มีรายงานผู้หญิงวันกลางคน อายุประมาณ 30-40 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะความดันโลหิตสูงเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ ที่น่าสนใจคือส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ๆ มีคุณภาพอากาศแย่ นักวิจัยสันนิษฐานว่า นี่อาจเป็นผลจากมลพิษในอากาศ
แม้ว่าทุกคนทราบกันเป็นอย่างดีว่า มลพิษในอากาศ อย่างเช่น ฝุ่นละออง PM2.5 ทำร้ายระบบทางเดินหายใจ แต่ในรายงานชิ้นล่าสุดนี้ ทำให้เห็นว่าผลกระทบต่อสุขภาพในบางเรื่อง อาจร้ายแรงในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งมาจากความแตกต่างของระบบร่างกาย ชีวภาพ และฮอร์โมน
ความน่ากลัวมีมลพิษมากกว่า 1 ชนิด ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงเกิดภาวะความดันโลหิตสูง และก็แทบละเป็นสารต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นPM2.5 ไอเสียจากยานพาหนะ การปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า และแม้แต่กิจกรรมภายในอาคาร เช่น การเผาเทียนหรือยาสูบ ล้วนก็ส่งผลต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง
นอกจากนี้ คาร์บอนดำ ซึ่งมีอยู่ใน PM2.5 และควันไฟจากการเผาไหม้ เป็นตัวเพิ่มความเสี่ยง หรือ ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂) ซึ่งปล่อยออกมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลในยานพาหนะ โรงไฟฟ้า และเตาแก๊ส ก็อันตรายไม่แพ้กัน
สารพิษที่เพิ่มโอกาสเกิดภาวะความดันโลหิตสูงในผู้หญิง
PM2.5 หรือ อนุภาคขนาดเล็กกว่าหรือเท่ากับ 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งสามารถเจาะลึกเข้าไปในปอดและกระแสเลือด ก่ออาการอักเสบและความเครียดออกซิเดชัน
- ไนโตรเจนไดออกไซด์ หรือ NO₂ มีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของความแข็งของหลอดเลือดแดงและการอักเสบของหลอดเลือด
- โอโซน หรือ O₃ แม้ว่าจะมีการศึกษาน้อยกว่า แต่สามารถทำให้โรคหัวใจและหลอดเลือดแย่ลงได้โดยส่งผลต่อการทำงานของปอดและการส่งออกซิเจน
- คาร์บอนมอนอกไซด์ หรือ CO ขัดขวางการขนส่งออกซิเจน บังคับให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
- ห้ามทิ้งทิชชู่เปียกลงชักโครก กฎหมายใหม่ใน “สเปน” ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- ความดันโลหิตสูง หากปล่อยผ่านอาจทำให้ตาบอด
- งานวิจัยเผย 3 โรคร้ายที่มีแนวโน้ม คร่าชีวิตผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง
- ครั้งแรกของเอเวอเรสต์ ใช้โดรนเก็บขยะยอดเขา แก้ปัญหาขยะล้นแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- บทเรียนจาก 9/11 สู่ตึก สตง. “ฝุ่นพิษ” อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
- “บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก” เทรนด์ใหม่มาแรง ตอกย้ำคนใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ที่มาข้อมูล : timesnownews
ที่มารูปภาพ : Envato
