นพ.เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา" เกี่ยวกับเพลง “เลิกกั๊กแล้วรักก่อนนะเตง” ว่าทำไมจึงกลายเป็นไวรัล และติดหู
ในช่วงเวลาสั้นๆหลังจากทูลกระหม่อมหญิงฯนำเพลงนี้มาcover เพลง “เลิกกั๊กแล้วรักก่อน” ก็พุ่งทะยานกลายเป็นไวรัลที่ใครๆก็ฮัมตามได้แบบห้ามไม่ได้
ส่วนตัวแล้ว หมอคิดว่าเหตุผลหนึ่งคือศัพท์ อย่าง “เตง” ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นคำเรียกที่น่ารัก ติดหู ให้ความรู้สึกใกล้ชิดเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการเกินไป
สรุปข่าว
นพ.เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา" เกี่ยวกับเพลง “เลิกกั๊กแล้วรักก่อนนะเตง” ว่าทำไมจึงกลายเป็นไวรัล และติดหู
ในช่วงเวลาสั้นๆหลังจากทูลกระหม่อมหญิงฯนำเพลงนี้มาcover เพลง “เลิกกั๊กแล้วรักก่อน” ก็พุ่งทะยานกลายเป็นไวรัลที่ใครๆก็ฮัมตามได้แบบห้ามไม่ได้
ส่วนตัวแล้ว หมอคิดว่าเหตุผลหนึ่งคือศัพท์ อย่าง “เตง” ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นคำเรียกที่น่ารัก ติดหู ให้ความรู้สึกใกล้ชิดเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการเกินไป
และนอกจากภาษาที่โดนใจแล้ว เพลงนี้ยังสอดแทรกกลิ่นอายของจิตวิทยาความรักยุคดิจิทัล ในมุมของหมอ เพลงนี้มีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างที่โดนใจคนฟังจำนวนมาก
1. ความลังเล หรือ ความอยากแน่ใจ การ “กั๊กมาต้องกั๊กกลับ” คือความรู้สึกของคนยุคนี้ที่ไม่กล้ารุกก่อนเพราะกลัวเจ็บ เพลงเลยพูดแทนคนที่อยู่ในสถานะ“เกือบคบแต่ยังไม่ชัด” มีงานวิจัยพบว่าคนรุ่นใหม่กว่า 46% รู้สึกว่าการเดทในยุคนี้เต็มไปด้วยความกำกวม (ambiguity)
2. การสื่อสารผ่าน playlist และ story ในเพลงนี้ใช้ภาพของการ “แชร์เพลง” “แท็กชื่อใน story” เป็นกลยุทธ์ส่งสัญญาณความรู้สึกทางอ้อม ซึ่งตรงกับผลสำรวจของ Spotify ปี 2024 ที่พบว่า 63% ของผู้ใช้อายุ 18-30 ใช้ playlist เป็นสื่อในการจีบคนที่ชอบ
3. น้ำเสียงม่วนๆแต่ก็แอบเศร้าเบาๆ แม้เพลงจะมี beat สนุก สดใส และเนื้อร้องติดตลก แต่หลายประโยคก็แฝงความเหงา โดดเดี่ยวและอยากได้รับการยอมรับ เช่น
“ไม่ได้ง้อ ก็รอไปงั้นเอง” หรือ “ก็เธออะคิดยาก”
เป็นความขำแบบเศร้า ที่คนฟังรู้สึกได้ทันทีว่ามันโดน
