"มะเร็งปอด VS วัณโรคปอด" ต่างกันอย่างไร? เช็กอาการ มีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง

"มะเร็งปอด VS วัณโรคปอด" ต่างกันอย่างไร? เช็กอาการ มีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง

"มะเร็งปอด" โรคร้ายที่คร่าชีวิตอันดับ 1 ของโลก

มะเร็งปอด เป็นโรคมะเร็งอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตของประชากรทั่วโลกและเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้ชายเป็นอันดับ 1 และเป็นอันดับ 3 ในผู้หญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์เมื่อมะเร็งมีอาการลุกลาม ซึ่งผลการรักษาไม่ค่อยดี ขณะที่หากได้รับการรักษาในระยะแรก ๆ ของโรค ผลการรักษาจะดีกว่ามาก 

ดังนั้น การตรวจพบโรคมะเร็งปอดตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะช่วยให้มีผลการรักษาที่ดี นอกจากนี้ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและพัฒนามากขึ้น ทำให้การรักษามะเร็งปอดในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก

สรุปข่าว

มะเร็งปอด เป็นโรคมะเร็งอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตของประชากรทั่วโลกและเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้ชายเป็นอันดับ 1 และเป็นอันดับ 3 ในผู้หญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์เมื่อมะเร็งมีอาการลุกลาม เช็กเลย "มะเร็งปอด VS วัณโรคปอด ต่างกันอย่างไร" รักษาอย่างไร อาการเริ่มแรกเป็นอย่างไร

"มะเร็งปอด" โรคร้ายที่คร่าชีวิตอันดับ 1 ของโลก

มะเร็งปอด เป็นโรคมะเร็งอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตของประชากรทั่วโลกและเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้ชายเป็นอันดับ 1 และเป็นอันดับ 3 ในผู้หญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์เมื่อมะเร็งมีอาการลุกลาม ซึ่งผลการรักษาไม่ค่อยดี ขณะที่หากได้รับการรักษาในระยะแรก ๆ ของโรค ผลการรักษาจะดีกว่ามาก 

ดังนั้น การตรวจพบโรคมะเร็งปอดตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะช่วยให้มีผลการรักษาที่ดี นอกจากนี้ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและพัฒนามากขึ้น ทำให้การรักษามะเร็งปอดในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก

อาการมะเร็งปอด

ในระยะแรกของมะเร็งปอดมักจะไม่แสดงอาการ แต่อาการมักจะเพิ่มขึ้น เมื่อมะเร็งมีการเจริญเติบโตขึ้น และอาการขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อน

อาการมะเร็งปอด ที่พบบ่อย

-ไอเรื้อรัง พบได้ประมาณ 50-75%
-ไอมีเสมหะปนเลือด ซึ่งอาจมีปริมาณเล็กน้อย หรือเลือดสดก็ได้
-เหนื่อยง่ายหายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก หายใจมีเสียงดังผิดปกติ เสียงแหบ
-เบื่ออาหารหรือน้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ
-รวมถึงอาการที่เกิดจากการลุกลามของมะเร็ง เช่น ปวดกระดูก ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง

มะเร็งปอด มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

มะเร็งปอด สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท ตามขนาดของเซลล์มะเร็ง

-มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก (Non-small cell lung cancer) มะเร็งปอดชนิดที่พบบ่อยที่สุดโดยทั่วไป มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็กเป็นมะเร็งที่เติบโตและแพร่กระจายได้ช้ากว่ามะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็ก สามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรก

-มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็ก (Small cell lung cancer) เป็นมะเร็งปอดชนิดที่สามารถเติบโตได้อย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่ามะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก มะเร็งปอดชนิดขนาดเชลล์เล็กมักพบได้ในผู้ป่วยที่มีประวัติการสูบบุหรี่ รักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง

การรักษามะเร็งปอด

การรักษามะเร็งปอดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ สุขภาพโดยทั่วไปของผู้ป่วย ชนิดและระยะของโรค หรือการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์ ผู้ป่วย และคนในครอบครัวผู้ป่วย

-ผ่าตัด (Surgery): เพื่อนำเนื้องอกมะเร็งภายในปอดออก การผ่าตัดเป็นทางเลือกหลักสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ยังไม่มีการแพร่กระจายเพราะสามารถหายขาดได้ ในบางกรณี อาจใช้การฉายแสงหรือใช้เคมีบำบัดเพื่อลดขนาดก้อนมะเร็งก่อนการผ่าตัด
-บำบัดด้วยรังสี (Radiotherapy): ใช้รังสีที่มีพลังงานสูงเพื่อลดขนาดเนื้องอกโดยการฆ่าทำลายเซลล์มะเร็ง มักใช้ร่วมกับเคมีบำบัดในช่วงก่อนหรือหลังการผ่าตัด การรักษาด้วยรังสีอาจเป็นทางเลือกหลักในการรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลาม
-ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy): เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต้านหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็ว และต่อเนื่อง ยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง หลายรูปแบบ ทำให้เซลล์ไม่สามารถแบ่งตัวต่อไปและตายในที่สุด
-ยาแบบมุ่งเป้า (Targetedtherapy): การรักษาด้วยยามุ่งเป้าจะเน้นการทำให้เซลล์มะเร็งตายโดยไปหยุดยั้งการเจริญเติบโตที่ผิดปกติโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ปกติข้างเคียง แต่จำเป็นต้องตรวจการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็งก่อน
-ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): อาศัยหลักการใช้ภูมิคุ้มกันเพื่อจัดการกับเซลล์มะเร็งในร่างกาย

มะเร็งปอด VS วัณโรคปอด ต่างกันอย่างไร

วัณโรคเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป ส่วนมะเร็งปอดเกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซล์ปอด ซึ่งต้องใช้เวลาในการแสดงอาการ ทำให้อาการมีความคล้ายคลึงกันได้ เช่น ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด หรือเบื่ออาหาร น้ำหนักลดได้ ทำให้การแยกโรคจากอาการได้ยาก จึงต้องอาศัยการตรวจเพิ่มเติม เช่น เก็บเสมหะเพาะเชื้อ หรือส่องกล้องหลอดลมเพื่อเอาชิ้นเนื้อในปอด

วัณโรคปอดคืออะไร

ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยมากแล้วจะมีผลต่อปอด หรือที่เรียกว่า "วัณโรคปอด" ทั้งนี้ วัณโรคปอดเป็นโรคติดต่อและสามารถแพร่สู่คนผ่านละอองฝอยจากการไอและจามได้

วัณโรคปอดมีอาการอย่างไร

วัณโรคมีอยู่ 2 ประเภท คือ วัณโรคแฝง และ วัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบ คนที่มีวัณโรคแฝงจะไม่แสดงอาการและวัณโรคชนิดนี้จะไม่แพร่กระจายไปยังบุคคลอื่น อย่างไรก็ดี วัณโรคแฝงอาจกลายมาเป็นวัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบได้ และจำเป็นต้องได้รับการรักษาเช่นเดียวกัน ในขณะที่วัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบนั้นทําให้ผู้ป่วยมีอาการของวัณโรค และสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบอาจมีอาการดังต่อไปนี้:  

-มีอาการไอเรื้อรังยาวนานถึง 3 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น
-ไอแล้วเสมหะมีเลือดปนออกมา
-มีอาการเจ็บหน้าอก ขณะหายใจหรือไอ
-มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
-มีน้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
-มีอาการอ่อนเพลีย
-มีไข้ หรือมีเหงื่อออกในเวลากลางคืน
-รู้สึกหนาวสั่น
-รู้สึกไม่อยากอาหาร

โดยทั่วไปแล้ว วัณโรคอาจเป็นกันได้ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายนอกเหนือจากปอดก็ได้ เช่น ไต กระดูกสันหลัง หรือสมอง โดยจะมีอาการแตกต่างกันไปตามบริเวณร่างกายที่เกิด เช่น ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหลังหากวัณโรคลงกระดูกสันหลัง และผู้ป่วยอาจมีเลือดในปัสสาวะหากวัณโรคลงไต  

ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดวัณโรคปอดมีอะไรบ้าง

-มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากมีโรคบางอย่างหรือเข้ารับการรักษาบางประเภท เช่น เป็นเอดส์ หรือ กำลังทำเคมีบําบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง
-เดินทางหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคสูง
-กำลังใช้สารบางอย่าง เช่น สูบบุหรี่ ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
-ไม่มีบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ผู้ป่วยได้เข้าใช้บริการ
-อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค เช่น กำลังอาศัยอยู่หรือเคยทำงานในสถานพยาบาล หรือกำลังอาศัยอยู่ในหรืออพยพมาอยู่ในประเทศที่มีการติดเชื้อวัณโรคสูง หรือกำลังอาศัยอยู่กับผู้ที่ติดเชื้อวัณโรค

แพทย์รักษาวัณโรคปอดอย่างไร

แพทย์มักเลือกใช้ยาในการรักษาวัณโรคปอด ซึ่งใช้เวลาในการรักษานานกว่าโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น การรักษาวัณโรคปอดอาจแตกต่างกัน ไปดังนี้:  

ยารักษาวัณโรคปอดที่ใช้บ่อยที่สุด

แพทย์อาจเลือกใช้ยารักษาผู้ป่วยที่เป็นวัณโรค ดังต่อไปนี้:  

-ไอโซไนอะซิด (Isoniazid)
-ริฟามพิน (Rifampin)
-เอทแทมบูท (Ethambutol)
-ไพราซีนาไมด์ (Pyrazinamide

ทั้งนี้ แพทย์อาจสั่งยาเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นวัณโรคชนิดที่ดื้อยาแล้ว เช่น:  
-เบดาไคลีน (Bedaquiline)
-ไลน์โซลิด (Linezolid)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เอ๋ พรทิพย์ ป่วยมะเร็งปอด รู้จักมะเร็งปอด สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

- เอ๋ พรทิพย์ โพสต์ครั้งแรกขอกำลังใจ หลังประกาศข่าวช็อก! ป่วยเป็นมะเร็ง

- กรมอนามัยเตือนระวัง 'วัณโรค' ยังคงอยู่ในไทย ไม่เคยจากไปไหน

แท็กบทความ

มะเร็งปอดวัณโรค
มะเร็งปอด VS วัณโรคปอด ต่างกันอย่างไร
อาการมะเร็งปอด
อาการวัณโรค
โรคมะเร็ง