F1 สนามประลองของยอดมนุษย์ สุขภาพนักแข่งต้องแกร่งแค่ไหน

นักขับ F1 จำเป็นต้องมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเป็นพิเศษ

เนื่องจากต้องเผชิญความท้าทายทางกายภาพที่หลากหลายบนสนามแข่ง การทนต่อแรง g ที่สูง การจัดการพวงมาลัยที่หนัก และการควบคุมแป้นเบรกที่ทรงพลังนั้นต้องใช้กล้ามเนื้อแขน ขา และแกนกลางที่แข็งแรง ในระหว่างการแข่งขัน นักขับอาจต้องรับแรงที่มากถึงห้าเท่าของน้ำหนักตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยกล้ามเนื้อคอและแกนกลาง การบังคับรถ F1 ไม่ได้ใช้กำลังช่วยเหมือนในรถทั่วไป ทำให้ความแข็งแรงของแขนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาการควบคุมรถที่ความเร็วสูง นอกจากนี้ การเหยียบเบรกในรถ F1 ยังต้องใช้ความแข็งแรงของขา เนื่องจากนักขับต้องออกแรงเหยียบแป้นเบรกเกือบ 330 ปอนด์เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ นักขับรถสูตร 1 ปฏิบัติตามกิจวัตรการออกกำลังกายที่เน้นไปที่การสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็น

การฝึกแขน: เพื่อให้แขนแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกาย เช่น การดัดแขนด้วยดัมเบลล์ การเหยียดไตรเซปส์ และการกดไหล่ ถือเป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสามารถของนักขับรถในการจัดการพวงมาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลูอิส แฮมิลตัน นักแข่งแชมป์โลกฟอร์มูลาวัน 7 สมัย กล่าวกับนิตยสาร Men’s Health ว่า “นักขับรถสูตร 1 ไม่ควรมีน้ำหนักมากเกินไป เพราะกล้ามเนื้อที่มากขึ้นก็หมายถึงน้ำหนักที่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การมีกล้ามเนื้อมากเกินไปที่ไหล่และแขนก็ถือเป็นข้อเสียเช่นกัน เนื่องจากคุณต้องมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำในรถ”

การฝึกขา: ความแข็งแรงของร่างกายส่วนล่างจะพัฒนาผ่านการออกกำลังกาย เช่น การสควอท การยกน่อง และการลันจ์ การออกกำลังกายเหล่านี้จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งสามารถออกแรงกดแป้นเบรกได้มากขึ้น

การฝึกแกนกลางลำตัว: แกนกลางลำตัวที่มั่นคงจะช่วยให้ทนต่อแรง G ที่สูงได้ และรักษาการทรงตัวในระหว่างการแข่งขันระยะไกล การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ได้แก่ แพลงก์ บิดตัวแบบรัสเซียน และขว้างบอลแพทย์

การฝึก Cardio Fitness และ Endurance

การแข่งขันด้วยความเร็วสูงเป็นเวลาหลายชั่วโมงในขณะที่ควบคุมรถนั้นไม่เพียงแต่ต้องการความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่ยังต้องมีสมรรถภาพทางหัวใจและหลอดเลือดในระดับสูงอีกด้วย ธรรมชาติอันเข้มงวดของ F1 ผลักดันให้นักแข่งรักษาอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยที่ประมาณ 170 ครั้งต่อนาทีระหว่างการแข่งขันนักแข่งจึงต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่เข้มข้น  หลายครั้งที่เราจะเห็นนักแข่ง F1 มักจะเล่นกีฬาที่ต้องใช้ความทนทาน ไตรกีฬา สกีทางเรียบ วิ่ง ปั่นจักรยาน และพายเรือ เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ช่วยให้พวกเขาปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดและเพิ่มความแข็งแกร่ง

การฝึกความแข็งแรงของคอและความทนทานต่อแรง G

ในโลกความเร็วสูงของ F 1 แรง G จะสร้างภาระให้กับกล้ามเนื้อคอของผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก นักกีฬาเหล่านี้จะต้องทนต่อแรงที่มากถึง 5 เท่าของน้ำหนักตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าโค้งและเบรก ข้อกำหนดเฉพาะนี้ทำให้ผู้ขับขี่ F1 แตกต่างจากนักกีฬาในกีฬาอื่นๆ อย่างชัดเจน

ทำความเข้าใจแรง G

แรง G หมายถึงประเภทของการเร่งความเร็วที่ทำให้เกิดการรับรู้ถึงน้ำหนัก ไม่ใช่การวัดความเร็วโดยตรง เช่น ไมล์ต่อชั่วโมง (mph) แต่เป็นความเร่งที่เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเราจะรู้สึกได้เมื่อความเร็วหรือทิศทางของเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แรง G หนึ่งแรงเท่ากับความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 9.8 เมตรต่อวินาทีกำลังสอง (m/s²) 

ในรถแข่ง F 1 แรงเหล่านี้อาจสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเครียดทางร่างกายอย่างรุนแรงหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว นักบินอวกาศจะรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงราวๆ 3g ในช่วงที่ปล่อยจรวด ซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขารู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงที่มากกว่าโลกถึง 3 เท่า ในขณะเดียวกัน นักแข่งรถสูตร 1 อาจรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงที่มากกว่าโลกถึง 6 เท่าในระหว่างการแข่งขัน นั่นหมายความว่าพวกเขารู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงที่มากกว่าโลกถึง 6 เท่า

การฝึกคอ: จุดเน้นสำคัญ

การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของคอเป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรการฝึกซ้อมของนักแข่งรถสูตร 1 นักแข่งสามารถสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอได้อย่างน่าประทับใจด้วยการใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น สายรัดคอและเครื่องออกกำลังกายเฉพาะทาง เพื่อช่วยต่อต้านแรงเหล่านี้

การออกกำลังกายแบบ Isometric Hold ซึ่งเป็นการตรึงคอไว้ในตำแหน่งเดียวเป็นเวลานาน ยังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงเสถียรภาพและป้องกันการบาดเจ็บอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น การฝึกแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือ นักแข่งต้องยกศีรษะที่สวมหมวกกันน็อคให้ตั้งตรงในขณะที่นอนตะแคง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพในการสร้างความทนทานของคอ

การฝึกฝนปฏิกิริยาตอบสนองผ่านการฝึกทางปัญญาและการจำลองสถานการณ์

สำหรับนักแข่งF 1 การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีที่เกิดขึ้นบนสนามแข่งอาจมีความสำคัญพอๆ กับความอดทนทางกาย ปฏิกิริยาตอบสนองและการประสานงานเป็นทักษะพื้นฐานที่ได้รับการฝึกฝนผ่านการผสมผสานอย่างซับซ้อนระหว่างการฝึกทางปัญญาและความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีขั้นสูง

การฝึกปฏิกิริยาตอบสนอง

เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการแข่งขัน F1 ที่รวดเร็ว นักขับรถจะต้องฝึกฝนปฏิกิริยาตอบสนองเฉพาะทาง

การฝึกปฏิกิริยาตอบสนองแบบไดนามิก: ซึ่งรวมถึงกิจกรรมที่นักขับรถต้องตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสิ่งเร้าทางสายตาหรือการได้ยิน จึงช่วยเพิ่มเวลาตอบสนองต่อสถานการณ์การแข่งขันที่คาดเดาไม่ได้

แบบฝึกการประสานงานระหว่างมือและตา: นักขับรถมักจะเล่นกีฬาประเภทลูกบอลหรือวิดีโอเกมที่ต้องมีจังหวะและการประสานงานที่แม่นยำเพื่อฝึกฝนทักษะเหล่านี้นอกสนามแข่ง

การฝึกจำลองสถานการณ์

ทีม F1 ลงทุนอย่างหนักในเครื่องจำลองที่ทันสมัยซึ่งจำลองประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียดทุกรายละเอียด:ฃ

การสร้างแบบจำลองสนามแข่งที่สมจริง: นักขับจะคุ้นเคยกับการบิดและเลี้ยวในสนามแข่งต่างๆ ทั่วโลก สัมผัสกับสภาพอากาศและเวลาของวันที่แตกต่างกัน

การจำลองพลวัตของยานพาหนะ: เครื่องจำลองจะให้ข้อมูลตอบรับเกี่ยวกับการตั้งค่ารถที่แตกต่างกันส่งผลต่อการควบคุมรถ ช่วยให้นักขับสามารถปรับปฏิกิริยาตอบสนองตามสถานการณ์การแข่งขันต่างๆ ได้

งานที่ต้องรับภาระทางปัญญา: ในขณะที่ใช้งานเครื่องจำลอง นักขับอาจต้องรับภาระทางปัญญาที่ออกแบบมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจหรือรับภาระมากเกินไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นการทำงานหลายอย่างที่จำเป็นในระหว่างการแข่งขันได้อย่างใกล้ชิด

การพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายหลังการแข่งขัน

การพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายก็มีความสำคัญไม่แพ้กันในการออกกำลังกาย นักกีฬาที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น นักแข่ง F1 ต่างตระหนักดีถึงความสำคัญของการปล่อยให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นตัว

ตารางการนอนหลับที่มีโครงสร้าง: การนอนหลับที่มีคุณภาพมีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง ดังนั้น นักแข่งจึงปฏิบัติตามโปรโตคอลการจัดการการนอนหลับอย่างเคร่งครัด

การฟื้นตัวอย่างกระฉับกระเฉง: กิจกรรมที่มีความเข้มข้นต่ำ เช่น การเดินหรือการว่ายน้ำแบบเบาๆ ช่วยรักษาความฟิตของร่างกายในขณะที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

กายภาพบำบัดและการนวด: การเข้ารับการบำบัดเป็นประจำช่วยป้องกันการบาดเจ็บโดยคลายความตึงของกล้ามเนื้อและปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต

การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยเสริมการฝึกซ้อมที่เข้มข้นโดยให้ร่างกายมีเวลาในการรักษาและสร้างใหม่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ประสิทธิภาพในระยะยาวตลอดฤดูกาลแข่งขันที่โหดร้าย

นักแข่ง F1 ต้องมั่นใจว่าตนเองพร้อมสำหรับทุกแง่มุมของกีฬาที่ท้าทายนี้ด้วยการผสานการออกกำลังกายที่ต้องใช้ความคิด เทคโนโลยีจำลอง และการฟื้นฟูเชิงกลยุทธ์เข้ากับโปรแกรมออกกำลังกาย ในขณะที่ความแข็งแกร่งทางกายภาพผลักดันพวกเขาให้ไปรอบๆ สนามแข่ง ปฏิกิริยาตอบสนองอันเฉียบคมจะกำหนดการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีของพวกเขา โดยแต่ละโค้งจะต้องผ่านอย่างแม่นยำและทุกการแซงจะต้องคำนวณอย่างรอบคอบ หัวใจสำคัญของการฝึกฝนนักแข่ง F1 ทุกคนคือการทำงานร่วมกันอย่างสำคัญระหว่างการปรับสภาพร่างกายและความอดทนทางปัญญา

ติดตามการแข่งขัน F1 ตลอดฤดูกาล 2025 แบบสดๆ ติดขอบสนามได้ทาง True visions Now ช่อง beIN SPORTS 1 (617) 

ทรูวิชั่นส์นาว แม็กซ์: แพ็กเดียวจบ กีฬาสดมากที่สุดในไทย พร้อมความบันเทิงสุดพรีเมียม ดูฟรีแอปดัง iqiyi viu และwetv เพียงเดือนละ 2, 155บาท สมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว

ทรูวิชั่นส์นาว ไพร์ม: กีฬาอินเตอร์ ฮอลลีวูดจัดเต็ม! ดูฟรีแอปดัง iqiyi และ wetv เพียงเดือนละ449บาท สมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว

ทรูวิชั่นส์นาว พลัส: ซีรีส์สุดฟิน กีฬาสุดมัน! สายซีรีส์ห้ามพลาด เชียร์สด F1และฟุตบอลยูโรป ดูฟรีแอปดัง iqiyi เพียงเดือนละ 249 บาท สมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว

ทรูวิชั่นส์นาว ป๊อป: ดูไทยให้สุด สนุกทุกแมตช์! หนังดี ละครดัง วาไรตี้สุดฮิต กีฬาเดือด จัดเต็มเพื่อคนไทย เพียงเดือนละ 119 บาทสมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.truevisions.co.th/