สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) อุปกรณ์ช่วยชีวิต สำคัญมาก! สำหรับทหารแนวหน้า

สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) อุปกรณ์ช่วยชีวิต สำคัญมาก! สำหรับทหารแนวหน้า

สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรัดบริเวณแขนหรือขา เพื่อห้ามเลือดที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงจากบาดแผล

หลักการทำงาน

สายรัดห้ามเลือดทำงานโดยการออกแรงบีบรัดรอบแขนหรือขาอย่างแน่นหนา จนสามารถหยุดการไหลเวียนของเลือดจากหลอดเลือดแดงที่สำคัญได้ชั่วคราว ซึ่งช่วยป้องกันการเสียเลือดมากเกินไปจนอาจทำให้เสียชีวิตได้


สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์การรบ และมีวิธีการใช้ที่ต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อรักษาชีวิตและลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด


วิธีการใช้สายรัดห้ามเลือดอย่างถูกต้อง

การใช้สายรัดห้ามเลือดควรทำเมื่อมีภาวะเลือดออกมากที่แขนหรือขา ซึ่งไม่สามารถหยุดได้ด้วยการกดแผลโดยตรงเท่านั้น


1.เลือกตำแหน่ง

รัดสายรัดห้ามเลือดเหนือจุดที่บาดเจ็บขึ้นมาประมาณ 2-3 นิ้ว (5-7 เซนติเมตร) โดยรัดบริเวณที่ใกล้กับลำตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น รัดเหนือข้อศอกหรือเหนือหัวเข่าขึ้นไป

สรุปข่าว

สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรัดบริเวณแขนหรือขา เพื่อห้ามเลือดที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงจากบาดแผล การใช้สายรัดห้ามเลือดอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อตาย หรือเส้นประสาทเสียหายได้ จึงควรได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งานจริง

สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรัดบริเวณแขนหรือขา เพื่อห้ามเลือดที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงจากบาดแผล

หลักการทำงาน

สายรัดห้ามเลือดทำงานโดยการออกแรงบีบรัดรอบแขนหรือขาอย่างแน่นหนา จนสามารถหยุดการไหลเวียนของเลือดจากหลอดเลือดแดงที่สำคัญได้ชั่วคราว ซึ่งช่วยป้องกันการเสียเลือดมากเกินไปจนอาจทำให้เสียชีวิตได้


สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์การรบ และมีวิธีการใช้ที่ต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อรักษาชีวิตและลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด


วิธีการใช้สายรัดห้ามเลือดอย่างถูกต้อง

การใช้สายรัดห้ามเลือดควรทำเมื่อมีภาวะเลือดออกมากที่แขนหรือขา ซึ่งไม่สามารถหยุดได้ด้วยการกดแผลโดยตรงเท่านั้น


1.เลือกตำแหน่ง

รัดสายรัดห้ามเลือดเหนือจุดที่บาดเจ็บขึ้นมาประมาณ 2-3 นิ้ว (5-7 เซนติเมตร) โดยรัดบริเวณที่ใกล้กับลำตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น รัดเหนือข้อศอกหรือเหนือหัวเข่าขึ้นไป

2.รัดให้แน่น

ดึงสายรัดให้แน่นจนกระทั่งไม่สามารถสอดนิ้วเข้าไปได้


3.หมุนแกน

หมุนแกน (Windlass) เพื่อเพิ่มความตึงของสายรัดจนเลือดหยุดไหลโดยสิ้นเชิง และไม่ควรหมุนจนรู้สึกว่าสายรัดขาด


4.ยึดแกน

 เมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว ให้ยึดแกนให้อยู่กับที่เพื่อป้องกันไม่ให้คลายออก


5.จดบันทึกเวลา

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องบันทึกเวลาที่รัดสายรัดห้ามเลือด ไว้บนสายรัด หรือบนหน้าผากของผู้บาดเจ็บอย่างชัดเจน เพื่อให้แพทย์ทราบ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ความสำคัญของสายรัดห้ามเลือดในการรบ


1.หยุดเลือดได้อย่างรวดเร็ว

ในสมรภูมิ การบาดเจ็บที่แขนขาจากกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ การใช้สายรัดห้ามเลือดจะช่วยหยุดการไหลของเลือดจากหลอดเลือดแดงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บาดเจ็บมีโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้น


2.ช่วยให้ผู้ช่วยเหลือทำภารกิจต่อไปได้

ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผู้บาดเจ็บหลายราย การใช้สายรัดห้ามเลือดช่วยให้แพทย์สนามสามารถหยุดเลือดของผู้บาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงสามารถไปให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรายอื่นต่อได้


3.ง่ายต่อการใช้งาน

สายรัดห้ามเลือดรุ่นใหม่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย และรวดเร็ว แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะทางการแพทย์ก็สามารถใช้ได้ภายใต้การฝึกฝน และผู้บาดเจ็บเองก็สามารถใช้กับตัวเองได้ด้วยมือเดียว


คำเตือน การใช้สายรัดห้ามเลือดอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อตาย หรือเส้นประสาทเสียหายได้ จึงควรได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งานจริง

ที่มาข้อมูล : TNN Health

ที่มารูปภาพ : Envato , Promedic Thailand