สรุปไทม์ไลน์ สงครามภาษี “สหรัฐฯ-จีน” แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

นับแต่ 1 ก.พ. 2025 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากเพียง 10% เป็น 20% ในวันที่ 4 มี.ค. 2025

และในการประกาศขึ้นภาษีตอบโต้นานาประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ จีนเจอภาษีตอบโต้อีก 34% รวมเป็น 54%

สรุปไทม์ไลน์ สงครามภาษี “สหรัฐฯ-จีน” แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

สรุปข่าว

ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2025 ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอย่างต่อเนื่อง จาก 10% เป็น 20% และเพิ่มขึ้นเป็น 54% หลังประกาศมาตรการตอบโต้ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าอเมริกัน 34% ทำให้ทรัมป์โกรธและประกาศขึ้นภาษีจีนเป็น 104% (แต่ระงับการใช้กับบางประเทศรวมถึงไทยไป 90 วัน) จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นเป็น 84% สถานการณ์บานปลายเมื่อสหรัฐฯ ขึ้นภาษีเป็น 145% และจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นเป็น 125% ล่าสุดเอกสารจากทำเนียบขาวเผยว่าสินค้าบางรายการจากจีนอาจเจอภาษีสูงถึง 245% แต่โดยทั่วไปอยู่ที่ 145%

ด้านประเทศจีนมีการตอบโต้ด้านภาษีกับสหรัฐฯ เช่นกัน ด้วยกันขึ้นภาษีแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน 34% ในวันที่ 6 เม.ย. 

เรื่องนี้ทำให้ทรัมป์โกรธและไม่พอใจมาก จนประกาศภาษีจีนขึ้นอีก 50% รวมเป็น 104% ในวันที่ 7 เม.ย. แต่ก็ระงับการบังคับใช้ภาษีกับประเทศ/ดินแดน ออกไป 90 วัน รวมถึงประเทศไทยด้วย เพื่อเปิดช่องทางการเจรจา 

ด้านจีนก็ขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ จาก 34% เป็น 84% หรือเรียกง่าย ๆ สหรัฐฯ ขึ้นภาษีจีนเท่าไหร่ จีนก็ขึ้นภาษีอเมริกาเท่านั้น จนในวันเดียวกัน คือ 9 เม.ย. ทรัมป์ขึ้นภาษีจีนเพิ่มเป็น 145% ในทุกรายการ ส่วนจีนก็ออกมาตอบโต้ครั้งล่าสุด ด้วยการขึ้นภาษีสหรัฐฯ เป็น 125%

อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่วันก่อน ทำเนียบขาวได้เผยแพร่ Fact Sheet เรื่องภาษีนำเข้าที่ใช้กับจีน พบว่า มีข้อความว่า ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 245% เชื่อว่าเป็นเฉพาะบางรายการ แต่อย่างไร สินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดจะเจอภาษี 145%

ที่มาข้อมูล : TNN Online

ที่มารูปภาพ : Reuters