กัมพูชาก่อ “อาชญากรรมสงคราม” ละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาหรือไม่?

กัมพูชาก่อ “อาชญากรรมสงคราม” ละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาหรือไม่?

สนธิสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ว่าด้วยการคุ้มครองบุคลลพลเรือนในเวลาสงคราม ข้อที่ 18 กำหนดว่า “ห้าม” โจมตีโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแล และรักษาผู้บาดเจ็บ และป่วยไข้ ผู้ทุกพลภาพ และสตรีที่คลอดบุตร ห้ามเป็นจุดโจมตีไม่ว่าจะพฤติการณ์ใด ๆ 

แต่สิ่งที่กัมพูชากระทำ คือ ใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีโรงพยาบาลพนมดงรักฯ จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บางส่วนของอาคารเสียหายรุนแรง ซึ่ง “การโจมตีโรงพยาบาล เป็นการละเมิดร้ายแรง และหากกระทำโดยเจตนา ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม อาจถูกฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในภายหลัง” 

สรุปข่าว

ตามเนื้อหาที่ระบุ กัมพูชาอาจกระทำอาชญากรรมสงครามโดยการโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรักฯ ด้วยจรวด BM-21 ซึ่งละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาข้อ 18 ที่ห้ามโจมตีโรงพยาบาลพลเรือน การโจมตีแบบไม่เลือกปฏิบัติที่ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บ 46 คน ละเมิดข้อ 51.2 และ 51.4 รวมถึงการโจมตีทรัพย์สินพลเรือนอย่างปั๊ม ปตท. และบ้านเรือนที่ละเมิดข้อ 52 ของพิธีสารเพิ่มเติม ซึ่งหากกระทำโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรงและอาจถูกฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้

สนธิสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ว่าด้วยการคุ้มครองบุคลลพลเรือนในเวลาสงคราม ข้อที่ 18 กำหนดว่า “ห้าม” โจมตีโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแล และรักษาผู้บาดเจ็บ และป่วยไข้ ผู้ทุกพลภาพ และสตรีที่คลอดบุตร ห้ามเป็นจุดโจมตีไม่ว่าจะพฤติการณ์ใด ๆ 

แต่สิ่งที่กัมพูชากระทำ คือ ใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีโรงพยาบาลพนมดงรักฯ จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บางส่วนของอาคารเสียหายรุนแรง ซึ่ง “การโจมตีโรงพยาบาล เป็นการละเมิดร้ายแรง และหากกระทำโดยเจตนา ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม อาจถูกฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในภายหลัง” 

ไม่เพียงเท่านั้น สนธิสัญญาฯ ฉบับพิธีสารเพิ่มเติม  

ข้อ 51 ว่าด้วยการคุ้มครองประชากรพลเรือน มี 2 ข้อย่อยที่น่าสนใจ คือ

51.2 “ประชากรพลเรือน” จะไม่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี ห้ามมิให้กระทำหรือคุกคามว่าจะใช้ความรุนแรง เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แพร่หลาย

51.4 ห้ามมิให้มีการโจมตีในลักษณะการไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงการโจมตีโดยใช้วิธีการหรือปัจจัยการรบ อันไม่สามารถจำกัดขอบเขตได้

แต่พฤติการณ์ของกัมพูชา คือ ใช้อาวุธหนักโจมตีฝ่ายไทย แต่พื้นที่เสียหายส่วนใหญ่ กลับเป็นชุมชนและประชาชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บอีก 46 คน 

และข้อ 52 ในพิธีสารเพิ่มเติม ว่าด้วยการคุ้มครองทั่วไปต่อทรัพย์สิ่งของพลเรือน ที่ระบุว่า ทรัพย์สิ่งของพลเรือน จะไม่ถือเป็นเป้าหมายแห่งการโจมตีหรือการปฏิบัติการตอบโต้ 

แต่สิ่งที่เกิดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. คือ กัมพูชาโจมตี ปั๊ม ปตท., ร้านสะดวกซื้อ และบ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก 

และนี่ยังเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่กัมพูชาได้ละเมิดในสนธิสัญญาเจนีวา

ที่มาข้อมูล : TNN Online

ที่มารูปภาพ : Handout