ประชากรไทยลดฮวบ จะเหลือไม่ถึง 45 ล้านคน เกิดน้อย-เสียชีวิตช้า-เศรษฐกิจจม

ประชากรไทยลดฮวบ จะเหลือไม่ถึง 45 ล้านคน เกิดน้อย-เสียชีวิตช้า-เศรษฐกิจจม

รายงานด้านประชากรศาสตร์ขององค์การสหประชาชาติ ชี้ว่า ปัจจุบัน มี 63 ประเทศและดินแดน ที่ประชากรถึงจุดสูงสุดแล้ว นั่นรวมถึงจีน เยอรมนี ญี่ปุ่น และประเทศไทยด้วย คาดว่าประชากรโลกจะถึงจุดพีคสุดในอีก 50-60 ปีข้างหน้า ที่ 10.3 พันล้านคน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2024

แล้วเมื่อประชากรถึงจุดสูงสุด นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นสู่การลดลงของประชากร ยกตัวอย่าง 63 ประเทศและเขตแดนที่ประชากรพุ่งถึงจุดสูงสุดไปแล้ว หรือคิดเป็น 28% ของประชากรทั้งโลก

ยูเอ็นคาดว่า ประชากรในประเทศเหล่านี้ จะลดลงถึง 14% ในอีก 30 ปีข้างหน้า และสิ่งนั้นเริ่มเห็นในประเทศไทยแล้ว

สรุปข่าว

ประเทศไทย ประชากรพีคสุดแล้ว และเข้าสู่ช่วงขาลง แต่เมื่อขึ้นสุด ก็ถึงจุดประชากรขาลง คาดว่าภายในปี 2100 หรือ ค.ศ. 2643 ประชากรไทยจะเหลือแค่ 45 ล้านคน จากปัจจุบัน อยู่ที่ 65 ล้านคน

รายงานด้านประชากรศาสตร์ขององค์การสหประชาชาติ ชี้ว่า ปัจจุบัน มี 63 ประเทศและดินแดน ที่ประชากรถึงจุดสูงสุดแล้ว นั่นรวมถึงจีน เยอรมนี ญี่ปุ่น และประเทศไทยด้วย คาดว่าประชากรโลกจะถึงจุดพีคสุดในอีก 50-60 ปีข้างหน้า ที่ 10.3 พันล้านคน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2024

แล้วเมื่อประชากรถึงจุดสูงสุด นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นสู่การลดลงของประชากร ยกตัวอย่าง 63 ประเทศและเขตแดนที่ประชากรพุ่งถึงจุดสูงสุดไปแล้ว หรือคิดเป็น 28% ของประชากรทั้งโลก

ยูเอ็นคาดว่า ประชากรในประเทศเหล่านี้ จะลดลงถึง 14% ในอีก 30 ปีข้างหน้า และสิ่งนั้นเริ่มเห็นในประเทศไทยแล้ว

ยกตัวอย่าง ประชากรไทยเคยอยู่ที่ 58.6 ล้านคนในปี 1995 ก่อนเพิ่มมาเป็น 71.6 ล้านคนในปี 2567 ซึ่งนี่คือจุดพีคสุดทางประชากรศาสตร์ 

จากนั้น ในปี 2054 ยูเอ็นคาดว่า ประชากรไทยจะลดลงราว 7 ล้านคน เหลือ 64.9 ล้าน และเหลือ 45.7 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2643 

โดยประเมินว่า สัดส่วนประชากรในเวลานั้น จะเป็นวัยเด็ก 0-14 ปี 11% วัยผู้ใหญ่ 15-59 ปี 47 % และผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป ถึง 42% เลยทีเดียว 

แต่หากยึดตัวเลขของกรมการปกครอง ที่ชี้ว่า ประชากรไทยปัจจุบันเหลือแค่ 65 ล้านคน ไม่ใช่ 71.6 ล้านคน นั่นหมายความว่า ในปี 2100 ประชากรไทยอาจเหลือไม่ถึง 40 ล้านคนก็เป็นได้

แม้ว่าสังคมกำลังพูดถึงอายุขัยที่เพิ่มขึ้นของมนุษย์ ที่ใส่ใจสุขภาพจนอายุยืน แต่ปัจจัยการลดลงของประชากร มีหลากหลาย ไม่ใช่แค่อัตราการเสียชีวิตเท่านั้น 

สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทำให้อัตราการเกิดลดน้อยลงมาก และเริ่มมีเทรนด์ครองโสด หรือเลือกไม่มีลูกกันมากขึ้น  

ยกตัวอย่างเมื่อปี พ.ศ. 2557 ประเทศไทยมีคนเกิดมากถึง 776,000 คน แต่ปี 2567 มีคนเกิดเพิ่มเพียง 462,000 คนเท่านั้น  

แต่สถานการณ์ในไทย ไม่น่าวิตกเท่ากับประเทศจีน ที่เมื่อปี 2567 ประชากรพีคไปถึง 1,420 ล้านคน แต่กลายเป็นว่าในปี 2597 จีนจะเหลือประชากร 1,221 ล้านคน และในปี 2643 จะลดลงครึ่งหนึ่ง เหลือแค่ 638 ล้านคนเท่านั้น 

การที่ประชากรไทยจะมีแต่ลดลง จะส่งผลกระทบอะไรบ้าง 

ข้อแรก แรงงานไทยก็ลดลงไปด้วย ผู้ประกอบการก็ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่ม ต้นทุนแรงงานก็จะสูง 

ข้อสอง การบริโภคครัวเรือนก็จะลดลง เพราะผู้สูงอายุของไทย ไม่ได้มีกำลังซื้อเยอะ

ข้อสุดท้าย คือ ภาระที่ภาครัฐต้องแบกรับ เมื่อคนเกิดน้อย แต่ต้องดูแลประชากรที่มีแต่จะสูงวัยขึ้น โดยเฉพาะสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล จนเริ่มมีการพูดกันว่า อีก 30 ปีข้างหน้า เงินทุนสำรองประกันสังคม จะไม่พอจ่ายค่าดูแลประชากรสูงวัยของไทย

ที่มาข้อมูล : UN

ที่มารูปภาพ : Envato