เทียบจุดยืนต่อประชาคมโลก “กัมพูชา-ไทย” ในเวทีสมัชชาสหประชาชาติ

เทียบจุดยืนต่อประชาคมโลก “กัมพูชา-ไทย” ในเวทีสมัชชาสหประชาชาติ

วานนี้ (28 ก.ย. 68) ปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้ขึ้นแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ โดยมีเนื้อหาว่า ไทยเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และคุกคามกัมพูชามาโดยตลอด

“น่าเศร้าที่มีการเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวต่อเนื่อง เพื่อกำหนดอธิปไตยเหนือดินแดนจากเพื่อนบ้าน โดยใช้กำลังทหาร แทนกลไลที่มีร่วมกัน ใช้แผนที่ฝ่ายเดียวแทนแผนที่ที่นานาชาติยอมรับ... และการกระทำอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนที่บ่อนทำลายความพยายามสร้างความไว้ใจและสันติภาพ” ปรัก สุคน กล่าว

สรุปข่าว

กัมพูชาและไทยมีจุดยืนตรงกันข้ามในการแถลงต่อสมัชชาสหประชาชาติ โดยรองนายกฯ กัมพูชากล่าวหาไทยว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและใช้กำลังทหารคุกคามอธิปไตย ขณะที่กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ฝ่ายไทยโต้แย้งผ่าน รมว.ต่างประเทศว่าข้อกล่าวหาคลาดเคลื่อนและตรงข้ามกับการหารือก่อนหน้า โดยชี้ว่าไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำจากการโจมตีของกัมพูชา ทั้งทหารบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด โรงเรียนถูกโจมตี และประชาชนถูกยิงจรวด พร้อมอธิบายว่าหมู่บ้านที่กัมพูชาอ้างนั้นตั้งอยู่ในเขตแดนไทยและเกิดจากการที่ไทยเปิดพรมแดนด้วยมนุษยธรรมในช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา แต่หมู่บ้านเหล่านี้ขยายบุกรุกมาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยยืนยันเลือกเส้นทางสันติภาพและความร่วมมือ

วานนี้ (28 ก.ย. 68) ปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้ขึ้นแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ โดยมีเนื้อหาว่า ไทยเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และคุกคามกัมพูชามาโดยตลอด

“น่าเศร้าที่มีการเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวต่อเนื่อง เพื่อกำหนดอธิปไตยเหนือดินแดนจากเพื่อนบ้าน โดยใช้กำลังทหาร แทนกลไลที่มีร่วมกัน ใช้แผนที่ฝ่ายเดียวแทนแผนที่ที่นานาชาติยอมรับ... และการกระทำอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนที่บ่อนทำลายความพยายามสร้างความไว้ใจและสันติภาพ” ปรัก สุคน กล่าว

“สิทธิและศักดิ์ศรีชาวกัมพูชาถูกละเมิดกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัดและสม่ำเสมอ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตและโปร่งใส เรายับยั้งชั่งใจและจะเผชิญการยั่วยุอย่างต่อเนื่อง”

ต่อมา สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ปรับถ้อยแถลงใหม่ หลังได้ยินข้อกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชา โดยชี้แจงต่อประชาคมโลก ผ่านเวทียูเอ็นว่า 

“ผมได้พบกับฝ่ายกัมพูชาที่สหประชาชาติแห่งนี้ เราคุยกันเรื่องสันติภาพ การเจรจา ความไว้ใจและความเชื่อมั่น... แต่คำกล่าวของกัมพูชาในวันนี้ ตรงข้ามสิ้นเชิงกับคำกล่าวหารือเมื่อวานแสดงให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา และข้อกล่าวหาของกัมพูชาคลาดเคลื่อนมาก จนทำให้ความจริงเป็นเรื่องตลก” สีหศักดิ์ กล่าว

“เราต่างรู้ว่าใครคือผู้ถูกกระทำที่แท้จริง นั่นคือทหารไทยที่ต้องสูญเสียขาจากทุ่นระเบิด คือเด็ก ๆ ที่โรงเรียนถูกโจมตี และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ที่กำลังจับจ่ายซ้อของในวันนั้นทีร้านสะดวกซื้อ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวดโจมตี”

“หมู่บ้านที่กัมพูชาอ้างถึง ตั้งอยู่ในเขตแดนไทยชัดเจน หมู่บ้านเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เพราะไทยตัดสินใจบนพื้นฐานมนุษยธรรม เปิดชายแดนช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสน หลบหนีสงครามกลางเมือง เข้ามาในไทย แต่แม้สงครามกลางเมืองสิ้นสุด และศูนย์พักพิงปิดลง แต่หมู่บ้านของกัมพูชายังขยายขอบเขตตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้ว่าไทยพยายามประท้วงอย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายกัมพูชายังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องที่จะจัดการปัญหาบุกรุกนี้”

ท้ายสุด สีหศักดิ์ แถลงถึงเรื่องนี้ว่า “ประเทศของเราทั้งสอง ต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางไทยขอถามกัมพูชาว่า จะเลือกเส้นทางใด การเผชิญหน้า หรือเส้นทางของสันติภาพและความร่วมมือ ไทยขอเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนของ ทั้งสองประเทศสมควรได้รับ”

ที่มาข้อมูล : TNN Online รวบรวม

ที่มารูปภาพ : Handout