
สรุปข่าว
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่รัฐหมายมั่นปั้นมือให้เป็นแหล่งดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อสร้างประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การพัฒนาเมือง และระบบโครงสร้างพื้นฐาน
โครงการดังกล่าว จะเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน คุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน ในขณะเดียวกันยังส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม และลดอุบัติเหตุบนถนน เนื่องจากรถไฟความเร็วสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีระบบควบคุมที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้การเกิดอุบัติเหตุอยู่ในอัตราที่น้อยมาก
โดยมีมูลค่าลงทุน 224,544.36 ล้านบาท แบ่งเป็นระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา 168,718 ล้านบาท การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ 45,155.27 ล้านบาท และสิทธิการเดินรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ 10,671.09 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 50 ปี คาดว่าจะการก่อสร้างเสร็จปี 2566–2567 ปริมาณผู้โดยสาร 147,200 คนต่อเที่ยวต่อวัน
โครงการนี้ เป็นโครงการลงทุนในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน PPP Net Cost ซึ่งเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการ คือกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร(กลุ่ม CPH) ที่เสนอราคาต่ำสุด และได้จรดปลายปากกาลงนามร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ กลุ่ม CPH ในวันที่ 24 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา ซึ่งทางกลุ่ม CPH ได้จัดตั้ง "บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด" หรือ "Eastern High-Speed Rail Linking Three Airports Co.,Ltd." เป็นตัวแทนลงนามในสัญญาร่วมลงทุน ครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าวด้วย
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand