ปิดฝายห้วยสายบาตรที่พังได้แล้ว กระทบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน 2 ตำบล

ความคืบหน้ากรณีน้ำจากหนองเลิงใหญ่ กัดเซาะฝายห้วยสายบาตร ในพื้นที่ ต.โคกสี อ.เมืองขอนแก่น ขาดกว้างกว่า 20 เมตร ส่งผลให้น้ำจากหนองเลิงใหญ่ไหลทะลักกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง เป็นปัญหาและอุปสรรคสำหรับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานเพื่อทำการซ่อมแซมในจุดที่พังเสียหายเป็นไปได้อย่างยากลำบาก โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันแรกที่ฝายพัง (4 ก.ค.2567)  กระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ (5 ก.ค.67) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานชลประทานที่ 6 ได้นำรถแบคโฮ

จำนวน 2 คัน เข้าไปขุดลอกและสร้างแนวกำแพงดินปิดกั้น ไม่ให้น้ำไหลออกจากหนองเลิงใหญ่ได้แล้ว 

นายจิรศักดิ์ มงคลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย สำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวว่า หลังจากทำแนวดินป้องกันน้ำได้แล้วเบื้องต้น จากนั้นจึงจะทำการซ่อมแซมจุดที่พังเสียหาย ด้วยการนำดินถมเท่าขนาดตัวฝายเดิม แล้วจกล่องหินเกเบี้ยน มาวางทับอีกชั้นและเสริมก้อนหินตามผนังคันดินเพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่งเป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้นไปก่อน  โดย สชป.6 สนับสนุนกล่องเกเรียนพร้อมบรรจุหินใหญ่ ไม่น้อยกว่า 50 กล่อง รวมถึงได้ระดมเครื่องจักร รถแบ็คโฮ จำนวน 2 คันและรถบรรทุก พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนในพื้นที่ คาดจะแล้วเสร็จภายใน 2-3 วันนี้ ส่วนระยะยาวจะได้หารือกับทาง อบต.โคกสี เพื่อออกแบบก่อสร้างทดแทนฝายเดิมให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด

ส่วนสาเหตุ เนื่องจากมีฝนตกสะสมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทำให้ปริมาณน้ำไหลล้นผ่านอาคารฝ่ายน้ำล้น ซึ่งเป็นแบบฝายสันกว้าง แล้วเกิดการกัดเซาะจนพังลง กว้างประมาณ 20 เมตร ทั้งนี้สาเหตุเบื้องต้น น่าจะเกิดจากอายุการใช้งานอาคารมานานเกิดการกัดเซาะภายใต้อาคารต่อเนื่อง

จากข้อมูลพบว่าขนาดความจุของหนองเลิงใหญ่ประมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีน้ำในอ่างประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เริ่มส่งผลกระทบกับน้ำต้นทุนผลิตประปาหมู่บ้านในตำบลโคกสี อ.เมืองขอนแก่น และ ตำบลกู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม

ภาพข่าวผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น