
นายวิรัตน์ เศรษฐวิพัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างไทยและกัมพูชา มีบทบาทในการส่งเสริม การค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมูลค่านำเข้าสินค้าจากฝั่งกัมพูชากว่า 1,000 ล้านบาท และ ส่งออกมากถึง 5,000 ล้านบาท
สรุปข่าว
นายวิรัตน์ เศรษฐวิพัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างไทยและกัมพูชา มีบทบาทในการส่งเสริม การค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมูลค่านำเข้าสินค้าจากฝั่งกัมพูชากว่า 1,000 ล้านบาท และ ส่งออกมากถึง 5,000 ล้านบาท
เขาระบุว่า หากมีการจำกัดเวลาเปิด – ปิดด่าน หรือมีการปิดด่านต่อเนื่อง เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลงร้อยละ 20 – 30 โดยเฉพาะในฝั่งของสินค้าไทยที่พึ่งพาการส่งออกผ่านด่านช่องจอม
สำหรับกรณีที่กัมพูชาปรับลดระยะเวลาวีซ่าสำหรับคนไทยเหลือ 7 วัน ประธานหอการค้าระบุว่า “แทบไม่มีผลกระทบ” เนื่องจากการสำรวจข้อมูลพบว่า คนไทยที่ใช้บริการผ่านด่านช่องจอม ส่วนใหญ่เดินทางในลักษณะไปเช้า – เย็นกลับ หรือหากมีการพักค้างคืน ก็มักอยู่ไม่เกิน 2–3 วัน จึงยังอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดอยู่แล้ว
ที่มาข้อมูล : หอการค้าสุรินทร์
ที่มารูปภาพ : หอการค้าสุรินทร์