DSI พิจารณารับคดีฮั้วเลือก สว. ยึดหลักกฎหมายไม่เกี่ยวการเมือง

DSI พิจารณารับคดีฮั้วเลือก สว. ยึดหลักกฎหมายไม่เกี่ยวการเมือง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะคณะกรรมการพิเศษ (กคพ.) กล่าวถึงการพิจารณารับคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นคดีพิเศษหรือไม่ว่า เป็นการพิจารณาตามข้อเท็จจริง กฎหมาย ไม่มีประเด็นกลั่นแกล้งทางการเมือง ถือเป็นการทำไปตามหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการ

"ผมมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเกี่ยวข้องกับฝ่ายนิติบัญญัติแห่งชาติ ถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาจะเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติ อย่าใช้อารมณ์หรือมองว่าเป็นความรู้สึกในการกลั่นแกล้งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ต้องมีข้อเท็จจริงมารองรับอย่างชัดเจน และหากกฎหมายอนุญาตให้ดีเอสไอทำจึงจะสามารถทำได้" นายภูมิธรรม กล่าว

สำหรับการประชุมในวันนี้จะได้ข้อยุติหรือต้องขยายเวลาออกไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอดูข้อเท็จจริงวันนี้ก่อน หากข้อเท็จจริงชัดก็เดินหน้า แต่หากจะมีอะไรขาดตกบกพร่องก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม เพราะข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของที่ประชุมด้วย


สรุปข่าว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะคณะกรรมการพิเศษ ยืนยันการพิจารณารับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้งทางการเมือง โดย กกต. เป็นผู้ส่งเรื่องให้ DSI พิจารณา เน้นย้ำว่าเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวกับฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องการ 15 เสียงจาก 22 เสียงในการรับเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ย้ำไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะคณะกรรมการพิเศษ (กคพ.) กล่าวถึงการพิจารณารับคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นคดีพิเศษหรือไม่ว่า เป็นการพิจารณาตามข้อเท็จจริง กฎหมาย ไม่มีประเด็นกลั่นแกล้งทางการเมือง ถือเป็นการทำไปตามหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการ

"ผมมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเกี่ยวข้องกับฝ่ายนิติบัญญัติแห่งชาติ ถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาจะเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติ อย่าใช้อารมณ์หรือมองว่าเป็นความรู้สึกในการกลั่นแกล้งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ต้องมีข้อเท็จจริงมารองรับอย่างชัดเจน และหากกฎหมายอนุญาตให้ดีเอสไอทำจึงจะสามารถทำได้" นายภูมิธรรม กล่าว

สำหรับการประชุมในวันนี้จะได้ข้อยุติหรือต้องขยายเวลาออกไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอดูข้อเท็จจริงวันนี้ก่อน หากข้อเท็จจริงชัดก็เดินหน้า แต่หากจะมีอะไรขาดตกบกพร่องก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม เพราะข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของที่ประชุมด้วย


"วันนี้ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาให้กรรมการดูให้ชัดเจน ถ้ากรรมการทั้งหมดดูแล้วเห็นว่าเป็นปัญหา ก็ต้องถามว่าตามข้อกฎหมายเป็นอำนาจของดีเอสไอหรือไม่ ถ้าชัดเจนแล้วดีเอสไอก็จะเดินหน้าทำตามหน้าที่ โดยต้องโหวตให้ได้ 2 ใน 3 หรือ 15 เสียง จาก 22 เสียง ใครไม่มา หรือหลบ หรือติดภารกิจก็ไม่นับ แต่ต้องได้ 15 เสียง" นายภูมิธรรม กล่าว

ส่วนกรณี สว.จะฟ้องกลับนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากฟ้องก็ต้องไปฟ้อง กกต. เพราะ กกต.เป็นคนยื่นเรื่องมายังดีเอสไอ ถ้าดีเอสไอดูแล้วไม่มีมูลก็ตัดเรื่องนี้ทิ้งไป ซึ่งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอยู่ที่มุมมอง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่กรรมการทั้ง 22 คนต้องใช้ดุลยพินิจ ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ไม่เอาความชอบความเกลียดประเด็นทางการเมืองเข้ามาประกอบการตัดสินใจครั้งนี้ ส่วนจะส่งฟ้องศาลอาญา หรือศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบก็ขึ้นอยู่กับประเด็นและข้อกฎหมาย และไม่สามารถระบุได้ว่าเรื่องนี้จะจบเมื่อไหร่ ต้องเป็นไปตามขั้นตองของกฎหมาย

"ผมจึงได้กำชับว่าให้ดำเนินการตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ชัดเจน ให้ทำตามหน้าที่โดยไม่ต้องคิดว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ใครทำผิดจริงก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมานั่งปวดหัว เราพิจารณาเรื่องนี้เราไม่ได้พิจารณาว่า สว.เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ผมยังไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ใช่ ต้องให้พรรคภูมิใจไทยพูดหรือแสดงท่าทีออกมาว่าเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีการเมือง เราไม่ได้พิจารณาว่าเป็นการเมืองฝ่ายไหน" นายภูมิธรรม กล่าว

พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับภาพรวมการทำงานของรัฐบาล และทำทุกอย่างตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ว่าพรรคไหน คนของพรรคใดทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบ

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

TNNThailand