
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์พบการย้ายหมุดพิกัดปราสาทตาเมือนธม และแนวเส้นสมมุติฐานเขตแดนไทย-กัมพูชาคลาดเคลื่อน ในแอปพลิเคชัน Google Map และมีความกังวลว่าเป็นการสร้างหลักฐานบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อนำไปใช้อ้างอิงฟ้องสื่อต่างชาติและศาลโลก รวมทั้งทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศเข้าใจผิด
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า การกำหนดสถานที่และเส้นเขตแดนในแอปพลิเคชัน Google Earth และ Google Map ทางบริษัทได้ใช้ข้อมูลจากภาคเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์เพื่อการเดินทาง ซึ่งในหลายจุดจะพบเห็นความคลาดเคลื่อน จากสถานที่จริงอยู่บ้าง แต่ข้อมูลของแอปพลิเคชันไม่มีผลทางด้านกฎหมาย ทั้งในระดับในประเทศและในระดับระหว่างประเทศ
สรุปข่าว
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์พบการย้ายหมุดพิกัดปราสาทตาเมือนธม และแนวเส้นสมมุติฐานเขตแดนไทย-กัมพูชาคลาดเคลื่อน ในแอปพลิเคชัน Google Map และมีความกังวลว่าเป็นการสร้างหลักฐานบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อนำไปใช้อ้างอิงฟ้องสื่อต่างชาติและศาลโลก รวมทั้งทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศเข้าใจผิด
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า การกำหนดสถานที่และเส้นเขตแดนในแอปพลิเคชัน Google Earth และ Google Map ทางบริษัทได้ใช้ข้อมูลจากภาคเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์เพื่อการเดินทาง ซึ่งในหลายจุดจะพบเห็นความคลาดเคลื่อน จากสถานที่จริงอยู่บ้าง แต่ข้อมูลของแอปพลิเคชันไม่มีผลทางด้านกฎหมาย ทั้งในระดับในประเทศและในระดับระหว่างประเทศ
จากการประสานงานกับกรมแผนที่ทหารให้ทำการตรวจสอบ พบว่าเส้นเขตแดนที่ปรากฏใน Google Map นั้นไม่ตรงกับเส้นเขตแดนบนแผนที่ชุด L7018 มาตราส่วน 1:50,000 ของกรมแผนที่ทหาร ซึ่งหน่วยราชการไทยใช้ยึดถืออยู่ในปัจจุบัน โดยกรมแผนที่ทหารจะได้หารือกับผู้แทนบริษัทที่รับผิดชอบในการจัดทำแผนที่เพื่อขอปรับแก้แนวเส้นเขตแดนในแอปพลิเคชัน Google Map ให้มีความสอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000
กรมแผนที่ทหารยังได้ระบุว่า การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นส่วนราชการไทยจึงยึดถือเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ตามที่กำหนดในแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ของกรมแผนที่ทหาร ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งของกลุ่มปราสาทตาเมือนทั้งสามแห่งอยู่ในเขตราชอาณาจักรไทย
ส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เจ้าหน้าที่ไทยได้รับการประสานจากฝั่งกัมพูชาว่า มีผู้ป่วยฉุกเฉินจากโรงพยาบาลจังหวัดเกาะกง 1 ราย ต้องการเข้าไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรี โดยจะมีการไปเปลี่ยนถ่ายรถบริเวณหน้าด่าน
หลังรับแจ้งนาวิกโยธินไทยได้ทำการเปิดประตูด่านทันที เพื่อรอผู้ป่วยฉุกเฉินจากฝั่งกัมพูชา โดยรับแจ้งว่าผู้ป่วยเป็นชาย 2 สัญชาติ (ไทย-กัมพูชา) อายุ 66 ปี มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากไส้ติ่งแตก โดยมีการประสานรถกู้ชีพของหน่วยกู้ภัยสว่างบุญเขตคลองใหญ่ มารอรับตัวผู้ป่วยบริเวณหน้าด่าน ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่จันทบุรีอย่างปลออดภัย ตามหลักมนุษยธรรม
- นายกฯ สั่งด่วน ปราบสินค้าเกษตรเถื่อนทะลักชายแดน ผ่อนปรนแรงงานกัมพูชาอยู่ไทย
- "ค้าชายแดน" ไทยยังแกร่ง 5 เดือนแรก +11.0% มูลค่า 8.3 แสนล้านบาท
- เปิดรายชื่อ 10 ประเทศเจ้าหนี้ - คู่ค้า "กัมพูชา" มีไทยติดอันดับ
- ไทยย้ำ “ควบคุม” ไม่เคย “ปิดด่าน” ชายแดน ขอกัมพูชาร่วมแก้ปัญหา
- นายกฯ ขอบคุณทหารพราน ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแล-สวัสดิการเต็มที่
- เวียดนาม-กัมพูชา ขัดแย้งชายแดนอย่างไร? แตกต่างจากรณีของไทย-กัมพูชาหรือไม่ ?
- รุก-ตอบโต้ให้ได้สัดส่วน แต่อย่าให้ถึงจุดตัดความสัมพันธ์ นักวิชาการมองท่าทีรัฐบาลแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา
ที่มาข้อมูล : กองทัพบก
ที่มารูปภาพ : Google Map
