
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก RFI Khmer (RFI ខេមរភាសា / RFI Khmer) ซึ่งเป็นสถานีวิทยุของประเทศฝรั่งเศสภาคภาษาเขมร โพสต์ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2568 ว่า นายพร โสภา และนายเพียบ เพียรา ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว TSP 68 Online ประเทศกัมพูชา ถูกตั้งข้อหากบฏต่อชาติ โดยอ้างอิงจากรายงานของ The Cambodian League for the Promotion and Defense of Human Rights (LICADHO) ที่ระบุว่า
สรุปข่าว
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก RFI Khmer (RFI ខេមរភាសា / RFI Khmer) ซึ่งเป็นสถานีวิทยุของประเทศฝรั่งเศสภาคภาษาเขมร โพสต์ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2568 ว่า นายพร โสภา และนายเพียบ เพียรา ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว TSP 68 Online ประเทศกัมพูชา ถูกตั้งข้อหากบฏต่อชาติ โดยอ้างอิงจากรายงานของ The Cambodian League for the Promotion and Defense of Human Rights (LICADHO) ที่ระบุว่า
ผู้สื่อข่าวกัมพูชา 2 รายที่ทำงานให้กับ TSP 68 TV Online ถูกจับกุมเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และถูกตั้งข้อหา “การมอบข้อมูลอันเป็นผลเสียต่อการป้องกันประเทศให้แก่รัฐต่างชาติ” ภายใต้มาตรา 445 อันเข้าข่ายความผิดฐานกบฏต่อชาติ มีโทษจำคุกระหว่าง 7–15 ปี สืบเนื่องจากกรณีการโพสต์บนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา
ทั้งนี้ นายพร โสภา และนายเพียบ เพียรา ถูกจับกุมในสถานที่ต่างกันเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 68 หลังจากกลับจากการทำข่าวในจังหวัดอุดรมีชัย ใกล้ชายแดนไทย ทั้งสองถูกตั้งข้อหาโดยศาลจังหวัดเสียมราฐ และถูกควบคุมตัวในเรือนจำเสียมราฐ ก่อนการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 68
ต่อมา นางออม สารัถ ภรรยาของนายเพียรา ได้เผยแพร่วิดีโอบนเฟซบุ๊กของ TSP 68 TV Online กล่าวขอโทษต่อสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต พร้อมทั้งขอให้ทั้งสองท่านเข้ามาช่วยเหลือในคดีของสามี
LICADHO คาดว่าต้นเหตุสำคัญของการดำเนินคดีครั้งนี้ มาจากการโพสต์ภาพถ่ายร่วมกับทหารกัมพูชาหลายนาย บริเวณหน้าปราสาทตาควาย ภายหลังการหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 (ถ่ายภาพเมื่อ 30 ก.ค. 68) ซึ่งในภาพปรากฏทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน และต่อมาได้ถูกเผยแพร่โดยสื่อมวลชนของไทยอย่างกว้างขวาง
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ภาพดังกล่าวสะท้อนข้อเท็จจริงชัดเจนถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในการสู้รบของฝ่ายกัมพูชา และแม้จะถูกเผยแพร่โดยผู้สื่อข่าวกัมพูชาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้ การที่ทางการกัมพูชากลับดำเนินคดีผู้สื่อข่าวทั้งสองในข้อหามอบข้อมูลอันเป็นผลเสียต่อการป้องกันประเทศแก่รัฐต่างชาติ ยิ่งสะท้อนว่าฝ่ายกัมพูชาใช้วิธีการจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เพื่อปกปิดและบิดเบือนหลักฐานสำคัญต่อสังคม
โฆษกกองทัพบกยังได้แสดงความชื่นชมต่อความกล้าหาญในการเผยแพร่ข้อเท็จจริงของสื่อที่เปิดเผยข้อมูลและย้ำความคาดหวังต่อความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องของฝ่ายกัมพูชา ตามข้อตกลงร่วมกันในการประชุม GBC เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการหยุดยิงอย่างเป็นรูปธรรมและสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนระหว่างสองประเทศในอนาคต
- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา! พบโดรน 4 ลำ ทั้ง 2 ฝ่ายยังวางกำลังเข้ม
- กองทัพบก เผยไทยควบคุม "เชลยศึกกัมพูชา" ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
- แม่ทัพภาคที่ 2 แสดงฝีมือ ตำส้มตำ ทอดไข่เจียว ร่วมทานอาหารกับกำลังพล
- รัฐบาลเดินหน้าเร่งซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนเสียหายจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
- สรุปสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา 5 ก.ย. 68 กองทัพภาคที่ 2 รายงานความคืบหน้า
