นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้ประกอบการและตัวแทนภาคเอกชนหลายกลุ่ม เช่น สมาคมภัตตาคารไทย LINE MAN Grab และ Wongnai เข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง” ซึ่งรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เตรียมนำกลับมาเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วน
นายสิริพงศ์ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก โดยนโยบายบางอย่างที่เคยทำไว้แล้วไม่สำเร็จ จะถูกหยิบมาต่อยอดและพัฒนาต่อไป การเชิญผู้ประกอบการเข้ามาพูดคุยครั้งนี้ ก็เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปหารือในที่ประชุมทีมเศรษฐกิจ และรายงานต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
ด้านภาคเอกชน นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่ามีฐานข้อมูลร้านอาหารทั้งเก่าและใหม่ที่พร้อมเข้าร่วมโครงการ และเชื่อว่าจะสามารถเชื่อมโยงระบบเพื่อดำเนินการได้โดยไม่ติดขัด ขณะที่นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย แสดงความกังวลในประเด็น “ภาษีย้อนหลัง” โดยเฉพาะในกลุ่มร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งเคยเผชิญปัญหาในรอบก่อน
สรุปข่าว
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้ประกอบการและตัวแทนภาคเอกชนหลายกลุ่ม เช่น สมาคมภัตตาคารไทย LINE MAN Grab และ Wongnai เข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง” ซึ่งรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เตรียมนำกลับมาเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วน
นายสิริพงศ์ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก โดยนโยบายบางอย่างที่เคยทำไว้แล้วไม่สำเร็จ จะถูกหยิบมาต่อยอดและพัฒนาต่อไป การเชิญผู้ประกอบการเข้ามาพูดคุยครั้งนี้ ก็เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปหารือในที่ประชุมทีมเศรษฐกิจ และรายงานต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
ด้านภาคเอกชน นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่ามีฐานข้อมูลร้านอาหารทั้งเก่าและใหม่ที่พร้อมเข้าร่วมโครงการ และเชื่อว่าจะสามารถเชื่อมโยงระบบเพื่อดำเนินการได้โดยไม่ติดขัด ขณะที่นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย แสดงความกังวลในประเด็น “ภาษีย้อนหลัง” โดยเฉพาะในกลุ่มร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งเคยเผชิญปัญหาในรอบก่อน
ทำไมโครงการ “คนละครึ่ง” จึงเป็นที่จับตา
กระตุ้นกำลังซื้อโดยตรง
คนละครึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลสมทบค่าใช้จ่าย 50% ของประชาชนในการซื้อสินค้าและบริการ ทำให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายมากขึ้นทันที
ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย
ร้านค้า ร้านอาหาร และผู้ค้ารายย่อย ได้รับลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการที่ประชาชนมีแรงจูงใจใช้สิทธิ์ เป็นการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน
เสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
โครงการบังคับใช้ผ่านแอปพลิเคชันและระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น และลดการพึ่งพาเงินสด
สร้างบรรยากาศเชิงบวกทางเศรษฐกิจ
เมื่อประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย จะเกิดการหมุนเวียนเงินในระบบ เป็นแรงส่งให้ภาคธุรกิจอื่น ๆ ฟื้นตัวตาม
เป็นมาตรการที่พิสูจน์ผลสำเร็จมาแล้ว
ในอดีต คนละครึ่งช่วยพยุงเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างเป็นรูปธรรม และได้รับเสียงตอบรับจากทั้งประชาชนและร้านค้า
ดังนั้น การที่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยเตรียมนำ “คนละครึ่ง” มาปัดฝุ่นอีกครั้ง จึงไม่ใช่เพียงมาตรการประชานิยม แต่ยังเป็นเครื่องมือฟื้นเศรษฐกิจเชิงรุก ที่มีผลต่อกำลังซื้อ ความเชื่อมั่น และการหมุนเวียนเศรษฐกิจในทุกระดับ
- "คนละครึ่ง" มาแน่ อนุทิน เผยเงื่อนไขใหม่ คนเสียภาษีได้สิทธิ 60 ต่อ 40 ประชาชนทั่วไป 50 ต่อ 50
- โพลหนุน “คนละครึ่ง” รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งนโยบายศก. แบบเห็นผลชัด
- "อนุทิน" ขยับไม้เด็ด “คนละครึ่ง เวอร์ชันใหม่” ปลุกกำลังซื้อฐานราก
- หากเกิด “รัฐบาลภูมิใจไทย” แล้ว 120 วันก่อนยุบสภา นายกฯ อนุทิน จะทำอะไรบ้าง?
- พรรคภูมิใจไทย ตอบรับข้อเสนอและเงื่อนไขพรรคประชาชน จัดตั้งรัฐบาลใหม่
