เปิดกำหนดการ นายกฯ ตรวจราชการสุรินทร์ - บุรีรัมย์ ฟื้นฟูความสงบชายแดน

เปิดกำหนดการ นายกฯ ตรวจราชการสุรินทร์ - บุรีรัมย์ ฟื้นฟูความสงบชายแดน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการจังหวัด สุรินทร์ และ บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2568 เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา พร้อมตรวจเยียวยาและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

สรุปข่าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ วันที่ 3–4 ต.ค. 68 เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมพบปะประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อให้กำลังใจและมอบนโยบายแนวทางการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง การเดินทางครั้งนี้เน้นสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการจังหวัด สุรินทร์ และ บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2568 เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา พร้อมตรวจเยียวยาและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

ในการตรวจราชการ วันที่ 3 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีจะเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และรับฟังบรรยายสถานการณ์ความไม่สงบ ณ ห้องประชุมเหมะบุตร กองกำลังสุรนารี อำเภอเมืองสุรินทร์ จากนั้นจะตรวจติดตามการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และพบปะประชาชนและหัวหน้าส่วนราชการ ณ โดมโรงเรียนพนมดงรักวิทยา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

สำหรับ วันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีจะพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมอบนโยบายแนวทางการเยียวยาและการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ณ ห้องประชุมเทศบาลตลาดนิคมปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

การเดินทางครั้งนี้มุ่งสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเน้นการทำงานร่วมระหว่างหน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครอง เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็ว

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : พรรคภูมิใจไทย