นักวิทย์เตือน ‘ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่’ ผลพวงภาวะโลกร้อน

แนวปะการังอันกว้างใหญ่ทั่วโลกกำลังกลายเป็นสีขาวน่ากลัวในปีนี้ ท่ามกลางอุณหภูมิมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า เหตุการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ครั้งที่ 4 ของโลก กำลังเกิดขึ้น ซึ่งมีผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล รวมถึงผู้คนและเศรษฐกิจที่พึ่งพาแนวปะการัง

เมื่ออุณหภูมิน้ำเพิ่มสูงขึ้น ปะการังที่มีสีสันสดใสจะเกิดความเครียด ปะการังจะขับสาหร่ายขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อของพวกมันออกจากตัวมันเอง ซึ่งทำให้ปะการังเปลี่ยนเป็นสีขาว

ปะการังส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำตื้น ซึ่งอุณหภูมิน้ำที่สูงอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน จะเด่นชัดที่สุด การที่ปะการังจะเกิดความเครียดจากความร้อนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าอุณหภูมิที่สูง คงอยู่ได้นานแค่ไหน และอุณหภูมิจะอุ่นขึ้นกว่าปกติมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ปะการังสามารถอยู่รอดได้จากเหตุการณ์ฟอกขาว หากน้ำโดยรอบเย็นลงและสาหร่ายกลับมา

เดวิด โอบูรา นักนิเวศวิทยา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาชายฝั่งมหาสมุทรในมหาสมุทรอินเดียด้านแอฟริกาตะวันออก กล่าวว่า การฟอกขาวก็เหมือนกับการเป็นไข้ในมนุษย์ เรามีไข้เพื่อต้านทานโรค ถ้าโรคไม่มาก เราก็หาย แต่ถ้ามากเกินก็ตาย”

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ในปีนี้ ปะการังเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงและรุนแรงขึ้นยาวนานกว่าที่เคย โดยอุณหภูมิทางทะเลในฤดูร้อนจะยาวนานขึ้นและร้อนขึ้น

อย่างไรก็ตาม แนวปะการังที่ตายแล้ว ยังสามารถเป็นที่พักพิงสำหรับปลา หรือเป็นแนวกั้นพายุสำหรับชุมชนชายฝั่งเป็นเวลาหลายปี แต่ในที่สุดแล้ว สุสานใต้น้ำของโครงกระดูกแคลเซียมคาร์บอเนตก็จะกัดกร่อนและแตกสลาย

ลอเรนโซ อัลวาเรซ-ฟิลิป นักนิเวศวิทยาแนวปะการังจากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก กล่าวว่า “อาจต้องใช้เวลา 10 หรือ 20 ปีกว่าจะเห็นผลที่ตามมา” 

ส่วนโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่รอดของปะการัง คือการที่โลกต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดว่า ที่อุณหภูมิสูงขึ้นเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมเพียง 1.2 องศาเซลเซียส โลกได้ผ่านเกณฑ์สำคัญสำหรับการอยู่รอดของแนวปะการังไปแล้ว พวกเขาคาดว่าแนวปะการังประมาณร้อยละ 70 ถึงร้อยละ 90 ของโลกจะสูญหายไป

ภาพจาก:  รอยเตอร์