กรมอุทยานฯเสนอทำ“ซาฟารีห้วยขาแข้ง”ป้องผืนป่า

กรมอุทยานฯเสนอทำ“ซาฟารีห้วยขาแข้ง”ป้องผืนป่า

สรุปข่าว

วันนี้ ( 1 ก.ย. 62 )ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. อุทัยธานี นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช   เจ้าหน้าที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร หน่วยงานราชการ และประชาชน ในจ.อุทัยธานี ร่วมกันวางหรีดแสดงความเคารพและรำลึกถึงสืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่จบชีวิตตนเองลง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 1 กันยายน 2533 บนบ้านพัก ภายในที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งการเสียชีวิตของสืบฯในครั้งนั้น ได้ก่อกระแสตื่นตัวด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  ป่าไม้และสัตว์ป่า ไปทั่วประเทศ

ขณะที่กรมอุทยาน จะเสนอโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการอนุรักษ์สัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตก ตามแผนงานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศสัตว์ป่า จะเป็นการดำเนินการจัดการท่องเที่ยวในรูปแบบซาฟารี คล้ายในทวีปแอฟริกา ใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ บริเวณรอยต่อเขตรักษาพันธุ์ฯห้วยขาแข้งกับอ่างเก็บน้ำทับเสลาทั้งบนบกและผืนน้ำ เนื้อที่กว่า 3 หมื่นไร่ ซึ่งส่วนน้ำท่วมถึง เมื่อน้ำลดจะกลายเป็นทุ่งหญ้าและเป็นแหล่งหากินของสัตว์ป่า เช่น ช้าง วัวแดง กระทิง เสือโคร่ง นกยูง และสัตว์กีบทั้งหลาย จึงมีความเหมาะสมจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบดังกล่าว โดยอาจจะใช้ได้ทั้งรถ และเรือในการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นดีพี) และมอบให้คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ดำเนินการศึกษาวิจัย และเสนอโมเดลมาแล้ว 4-5 รูปแบบ โดยหากสามารถดำเนินการได้คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท 

ส่วนข้อห่วงใยที่ว่าจะทำให้มีการแฝงตัวเข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่หรือไม่นั้น เรื่องลักลอบการล่าสัตว์เป็นปัญหาที่มีในพื้นที่นี้อยู่แล้ว จึงต้องคิดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อดึงชุมชนมาร่วมอนุรักษ์และดูและดูแลสัตว์ป่า โดยชุมชนต้องได้ประโยชน์จากการจัดการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งการดำเนินการน่าจะเป็นรูปแบบที่รัฐร่วมมือกับชุมชนในการบริหารจัดการ ซึ่งถ้าได้ข้อสรุปของโครงการจะนำไปสอบถามความเห็นของชุมชนรอบพื้นที่ต่อไป

ด้าน รมต.วราวุธ เผยว่า ภัยคุกคามห้วยขาแข้งที่ยังเกิดขึ้นนั้น หัวใจสำคัญคือเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทุกคน และชุมชนที่ต้องช่วยกันป้องกันดูแล โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่อยู่ 20 ชุด ซึ่งตนจะช่วยสนับสนุนเรื่องเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำงาน ส่วนกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องที่ทำกินในป่าอนุรักษ์หลายพื้นที่นั้น หัวใจสำคัญคือจะทำอย่างไรในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนควบคู่การอนุรักษ์พื้นที่ป่าและให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้ และต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเรามีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ดูแลอยู่ และขอให้ใช้คำว่าการร่วมกันฟื้นฟูป่า โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของภาคประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลในออกโฉนดชุมชน นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี และต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน ตนยังไม่รับปากว่าทำได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าใครจะทำอะไรได้ตามใจชอบ และไม่ใช่ได้โฉนดไปแล้วนำไปสร้างคอนโด



ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

สืบ นาคะเสถียร
ซาฟารีห้วยขาแข้ง
อุทัยธานี
ชาดา ไทยเศรษฐ์
ห้วยขาแข้ง
ธัญญา เนติธรรมกุล
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ