
สรุปข่าว
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือขณะนี้ปริมาณน้ำได้ไหลจากอำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ เข้าสู่จะหวัดลำพูน โดยมีการเร่งระบายน้ำจากลำพูนไปยังเขื่อนแม่กวงฯ คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายภายใน 7 วัน
ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบันระบายน้ำอยู่ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลง 50 -100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที เพื่อเป็นการลดผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อนทั้งในและนอกคันกั้นน้ำ อย่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่จะเกิดฝนตกหนักในวันที่ 12-14 ตุลาคม และจะเจอกับน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 13-24 ตุลาคม และประเมินว่าจะลดการระบายน้ำลงได้ต่อเนื่อง แม้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะยังรับน้ำได้ก็ตาม
ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับ สทนช. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ภาคใต้ ที่ จังหวัดยะลา เพื่อเตรียมการรับมือปริมาณฝนที่จะตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงวันที่ 9 - 12 ตุลาคม 2567
อีกทั้งยังต้องติดตาม พายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงวันที่ 15-20 ตุลาคม โดยอ้างอิงจากสถิติย้อนหลัง ที่อาจมีแนวโน้มเกิดพายุดีเปรสชั่น ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน จะมีฝนตกเพิ่มได้ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือฝั่งตะวันตก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑล
- ชลประทานเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง เฝ้าระวังน้ำเหนือถึงวันที่ 2 มิ.ย.
- น้ำเหนือหลากลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา กรมชลฯ แจ้งเตือน 11 จังหวัดเฝ้าระวังด่วน
- "เขื่อนเจ้าพระยา" เพิ่มการระบายน้ำ เตรียมพร้อมรับมวลน้ำเหนือ
- “เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำเพิ่ม เตรียมรับมือระดับน้ำสูงขึ้น
- เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม แจ้งเตือน 11 จังหวัด “เฝ้าระวังใกล้ชิด”
- "เขื่อนเจ้าพระยา" เร่งระบายน้ำ เตือน 7 จังหวัด เตรียมรับมือมวลน้ำเหนือ
- ระดับน้ำเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่าเกณฑ์ เตือนชะลอทำนาหวั่นน้ำไม่พอ
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand