
เช็กเลย! วิธีคิดเงินบำนาญชราภาพ คำนวณเองง่ายๆ ก่อนเกษียณ
การวางแผนเกษียณเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้าม โดยเฉพาะ "เงินบำนาญชราภาพ" ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนภายใต้ กองทุนประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 จะได้รับเมื่ออายุครบ 55 ปี และมีระยะเวลาการส่งเงินสมทบตามเกณฑ์ที่กำหนด
แต่คำถามคือ เราจะได้เงินบำนาญเท่าไหร่? มีวิธีคำนวณอย่างไร? วันนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจ พร้อมสูตรคำนวณง่ายๆ เพื่อประเมินรายได้หลังเกษียณด้วยตัวเอง

สรุปข่าว
เงินบำนาญชราภาพคืออะไร? ใครมีสิทธิได้รับ?
เงินบำนาญชราภาพ คือ เงินรายเดือนที่ประกันสังคมจ่ายให้ตลอดชีวิต สำหรับผู้ประกันตนที่เข้าเงื่อนไขต่อไปนี้:
✅ มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
✅ ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 180 เดือน (15 ปี)
📌 หากส่งเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเป็น เงินบำเหน็จชราภาพ หรือเงินก้อนคืนครั้งเดียวแทน
สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพ (สูตรเดิม vs สูตรใหม่)
ปัจจุบัน เงินบำนาญชราภาพคำนวณจากสูตรเดิม ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ปี 2540 แต่เร็วๆ นี้ คณะกรรมการประกันสังคมได้พิจารณา ปรับปรุงสูตรใหม่เพื่อความเป็นธรรมมากขึ้น
📌 สูตรเดิม (ใช้มาตั้งแต่ปี 2540)
เงินบำนาญชราภาพ = (เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย × 20%) + (อัตราเพิ่ม 1.5% ต่อทุกปีที่เกิน 15 ปี)
ตัวอย่าง
นาย ก. มี เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย = 15,000 บาท
ส่งเงินสมทบทั้งหมด 25 ปี
📌 คำนวณเงินบำนาญ
20% ของ 15,000 = 3,000 บาท
ส่วนที่เกิน 15 ปี = 10 ปี → (10 × 1.5%) = 15%
เงินบำนาญที่ได้รับ = 3,000 + (15,000 × 15%)
= 3,000 + 2,250 = 5,250 บาท/เดือน
📌 ข้อเสียของสูตรเดิม
❌ หากเคยเป็น มาตรา 33 แล้วเปลี่ยนเป็นมาตรา 39 เงินบำนาญจะถูกคิดจากฐาน 4,800 บาท (ของมาตรา 39) แทนฐานเงินเดือนเดิม ทำให้เงินบำนาญลดลงอย่างมาก
📌 สูตรใหม่ (CARE Model) – กำลังพิจารณาใช้ในปี 2569
คำนวณจากฐานเงินเดือนเฉลี่ยที่ส่งจริง ตลอดช่วงเวลาการเป็นผู้ประกันตน (ปรับเป็นมูลค่าปัจจุบัน)
📌 ข้อดีของสูตรใหม่
✅ ลดปัญหาผู้ที่เปลี่ยนจากมาตรา 33 เป็นมาตรา 39 ที่ถูกลดฐานเงินเดือน
✅ คำนวณเงินสมทบจาก มูลค่าปัจจุบัน (อัตราเงินเฟ้อปรับ) ทำให้ได้บำนาญที่สะท้อนค่าครองชีพจริง
ตัวอย่าง
นาย ข. เคยส่งเงินสมทบมาตรา 33 เป็นเวลา 15 ปี (ฐานเงินเดือน 15,000 บาท)
ย้ายไปส่งมาตรา 39 อีก 10 ปี (ฐานเงินเดือน 4,800 บาท)
เปรียบเทียบสูตรเดิม vs สูตรใหม่
ภายใต้ สูตรเดิม การคำนวณเงินบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 39 จะอ้างอิงจากฐานเงินเดือน 4,800 บาท ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดของมาตรา 39 ส่งผลให้เงินบำนาญที่ได้รับอยู่ที่ประมาณ 1,680 บาทต่อเดือน เท่านั้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ผู้ประกันตนจะเคยอยู่ในมาตรา 33 และมีฐานเงินเดือนสูงกว่าก็ตาม การเปลี่ยนสถานะจากมาตรา 33 ไปมาตรา 39 จึงทำให้หลายคนได้รับเงินบำนาญต่ำกว่าความเป็นจริง
ขณะที่ สูตรใหม่ ใช้แนวคิด CARE Model ซึ่งนำฐานเงินเดือนเฉลี่ยตลอดช่วงเวลาการส่งเงินสมทบมาคำนวณ โดยปรับเป็นมูลค่าปัจจุบัน ทำให้ฐานเงินเดือนเฉลี่ยที่ใช้คำนวณเพิ่มขึ้นเป็น ประมาณ 10,500 บาท ส่งผลให้เงินบำนาญที่ได้รับขยับขึ้นเป็น 3,800 บาทต่อเดือน สูตรใหม่นี้ช่วยให้การคำนวณเป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เคยอยู่ในมาตรา 33 แล้วเปลี่ยนมาส่งมาตรา 39 ซึ่งในอดีตต้องเผชิญกับปัญหาการลดลงของเงินบำนาญอย่างไม่เป็นธรรม
วางแผนเกษียณอย่างมั่นใจ!
💡 รู้วิธีคำนวณเงินบำนาญ = เตรียมตัวเกษียณได้อย่างมั่นใจ
🔹 หากส่งเงินสมทบมาตรา 33 และมาตรา 39 สูตรใหม่จะช่วยให้ได้รับเงินบำนาญที่เป็นธรรมมากขึ้น
🔹 เช็กสิทธิ์-วางแผนตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอหลังเกษียณ