
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมาย นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายชัยยุทธ ชัชลิตวพงษ์ อนุกรรมการไกล่เกลี่ย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค น.ส.ตรีชฎา ศรีชาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผู้บริหารหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการ
โดยนายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า โครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีที่มาโดยนายสมศักดิ์ ดำริมาตั้งแต่สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ช่วงที่มีโควิด - 19 พี่น้องประชาชนเองมีความเดือดร้อน มีหนี้สินที่เกิดขึ้นในฐานะเจ้ากระทรวงท่านจึงเล็งเห็นว่า เราควรทำพ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยให้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ไกล่เกลี่ยที่เป็นไปตามพ.ร.บ.สร้างความมั่นใจให้กับคู่ความที่เข้ามาใช้บริการ และทำให้สะดวกในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย จึงระดมผู้ที่มีความรู้ด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ตลอดจนบุคคลในแวดวงสังคม มาร่วมกันคิดมาร่วมกันจัดทำจึงได้เกิดเป็นโครงการ และบังคับใช้ออกมาเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.ดังกล่าวจึงเกิดในยุคที่นายสมศักดิ์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำโครงการไกล่เกลี่ยหนี้สินประชาชนทั่วประเทศ แก้ปัญหาประชาชนในขณะนั้น ไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท

สรุปข่าว
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมาย นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายชัยยุทธ ชัชลิตวพงษ์ อนุกรรมการไกล่เกลี่ย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค น.ส.ตรีชฎา ศรีชาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผู้บริหารหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการ
โดยนายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า โครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีที่มาโดยนายสมศักดิ์ ดำริมาตั้งแต่สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ช่วงที่มีโควิด - 19 พี่น้องประชาชนเองมีความเดือดร้อน มีหนี้สินที่เกิดขึ้นในฐานะเจ้ากระทรวงท่านจึงเล็งเห็นว่า เราควรทำพ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยให้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ไกล่เกลี่ยที่เป็นไปตามพ.ร.บ.สร้างความมั่นใจให้กับคู่ความที่เข้ามาใช้บริการ และทำให้สะดวกในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย จึงระดมผู้ที่มีความรู้ด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ตลอดจนบุคคลในแวดวงสังคม มาร่วมกันคิดมาร่วมกันจัดทำจึงได้เกิดเป็นโครงการ และบังคับใช้ออกมาเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.ดังกล่าวจึงเกิดในยุคที่นายสมศักดิ์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำโครงการไกล่เกลี่ยหนี้สินประชาชนทั่วประเทศ แก้ปัญหาประชาชนในขณะนั้น ไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท

โดยนายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า เมื่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พบปัญหาต่อเนื่องกันมาโดยตลอดก็คือปัญหาภายในโรงพยาบาลคือบุคลากรทางการแพทย์ เช่น ปัญหาเรื่องการดูแลผู้ป่วยไม่ทั่วถึง หรือดูแลผู้ป่วยแล้วเกิดข้อผิดพลาด หรือบกพร่องเกิดขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาขึ้น ก็มีการร้องเรียนฟ้องร้อง เกิดเป็นคดีความต่างๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงได้สั่งการให้เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยฯขึ้น จึงเป็นที่มาของการทำเอ็มโอยูร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กับกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำพ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยมาใช้ในกระทรวงสาธารณสุข และใช้ในการเปิดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง ประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยนั้นจะทำให้ลดภาระเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ในระบบสาธารณสุข ไม่ต้องมากังวลกับคดีความที่ต้องถูกฟ้องร้อง เพราะเรามีศูนย์ไกลเกลี่ยฯ คอยเป็นผู้ช่วยเหลือ เวลาที่เราปฏิบัติหน้าที่เวลา จะได้ไม่ต้องกังวลถึงว่าเวลามีเหตุเกิดขึ้นจะไม่มีบุคคลคอยช่วยเหลือ จากนี้ต่อไปในยุคท่านสมศักดิ์เทพสุทิน ศูนย์ไกล่เกลี่ยฯจะทำให้ท่านไม่เป็นผู้เดียวดาย ผมเชื่อว่าท่านสมศักดิ์ยังมีไอเดีย อีกหลายหลายอย่างที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับกระทรวงอีกมากมาย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทตัวอย่างในการทำงานให้เป็นสาธารณสุขเชิงรุกสร้างสุขให้ประชาชน
“นายสมศักดิ์วางไว้อีกเรื่องหนึ่งก็คือวันนี้จะเห็นได้ว่าพยาบาลของเราไม่ถูกตบฟรีแล้ว ใครตบพยาบาลก็ต้องจ่าย 35,000 กว่าบาท เพราะเป็นคำพิพากษาที่ศาลมีข้อกำหนดเอาไว้แล้วว่าคดีดังกล่าวนั้นมีอัตราโทษจำคุก เป็นบรรทัดฐานที่จะป้องกันในอนาคตว่าท่านจะไม่ถูกรังแกอีกต่อไป การใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลไม่ควรเกิดขึ้น ตลอดจนเรื่องเจ้าหน้าที่ในสถานพยาบาลเองก็ต้องละมุนละม่อมกับผู้รับบริการด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราอยากให้ทุกอย่างนั้นเป็นเหมือนคนในครอบครัว สิ่งสำคัญหากสามารถบริหารจัดการได้ดี จะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งรวมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงได้”นายกองตรีธนกฤต กล่าว
- “สมศักดิ์” ชู ข้าว กข.43 ลดป่วยเบาหวาน อัพราคาช่วยผู้ปลูก
- "สมศักดิ์" มั่นใจไม่ขอขยายเวลาพิจารณามติแพทยสภาเพิ่ม ปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ
- ‘สมุนไพร’ แทน ‘ยาเดิม’ กับคำถาม? เพื่อเศรษฐกิจ หรือ สิทธิคนไข้
- "สมศักดิ์" ปลื้มคนไทยนับคาร์บ ลดเสี่ยงโรค NCDs ทะลุ 440,000 ราย ตั้งเป้า 50 ล้านคน
- ตัวเลขผิด! “สมศักดิ์” ซัดตัวเลขค่ารักษาชวดเก็บต่างด้าว 9.2 หมื่นล้าน เป็นไปไม่ได้
- "สมศักดิ์" ลดนำเข้ายาต่างประเทศ ตั้งเป้าปี 69 สปสช. ใช้ "สมุนไพรไทย" 3,000 ล้านบาท
- 5 สิ่งที่แย่ที่สุด เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ถูกทำร้าย
ที่มาข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
ที่มารูปภาพ : กระทรวงสาธารณสุข
