
รองศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถคงความคืบหน้าการรื้อซากอาคารสตง.ถล่มและค้นหาผู้เสียชีวิต ว่า เจ้าหน้าที่ได้เดินหน้ารื้อซากอาคารถล่ม จนยอดความสูงของอาคารลดลงเหลือ 19 เมตร ซึ่งการดำเนินการส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่มีปัญหาเรื่องของเส้นเหล็กบางจุดที่ขวางไม่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยลงไปสำรวจตามโพรงต่างๆ วันนี้จึงนำเครื่องจักรตัดเหล็กเพิ่มจำนวน 1 คัน เพื่อให้การค้นหาและรื้อถอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณโซน C รวมถึงชิ้นเนื้ออีก 24 ชิ้น มีการนำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นเนื้อทั้งหมดไปส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเรื่องพิสูจน์อัตลักษณ์ มีรายชื่อที่ได้จากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้งหมด 103 คน พบแล้ว 91 คน แต่ยังมีรายชื่อที่ยังตกหล่น โดยตอนนี้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบ น่าจะสามารถติดตามได้ทั้งหมด รวมถึงจะให้สำนักงานต่างประเทศของ กทม. ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์เพิ่มจากชายแดนของสถานทูตเมียนมา
ด้านการเยียวยาผู้เสียชีวิต กระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มวงเงินในการจัดการศพ ศพละ 100,000 บาท โดยที่ไม่ต้องคิดในรายละเอียดว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัวหรือไม่ พร้อมกำหนดว่าจะจ่ายเงินรอบแรกที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ขอเวลาให้ทาง กทม.เร่งนำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์
ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าภารกิจกู้ภัยผู้สูญหายจากซากอาคาร ณ เวลา 10.00 น. ของวันที่ 15 เม.ย. จำนวนผู้ประสบเหตุ 103 คน แยกเป็น ผู้เสียชีวิต 44 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 50 คน
สรุปข่าว
รองศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถคงความคืบหน้าการรื้อซากอาคารสตง.ถล่มและค้นหาผู้เสียชีวิต ว่า เจ้าหน้าที่ได้เดินหน้ารื้อซากอาคารถล่ม จนยอดความสูงของอาคารลดลงเหลือ 19 เมตร ซึ่งการดำเนินการส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่มีปัญหาเรื่องของเส้นเหล็กบางจุดที่ขวางไม่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยลงไปสำรวจตามโพรงต่างๆ วันนี้จึงนำเครื่องจักรตัดเหล็กเพิ่มจำนวน 1 คัน เพื่อให้การค้นหาและรื้อถอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณโซน C รวมถึงชิ้นเนื้ออีก 24 ชิ้น มีการนำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นเนื้อทั้งหมดไปส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเรื่องพิสูจน์อัตลักษณ์ มีรายชื่อที่ได้จากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้งหมด 103 คน พบแล้ว 91 คน แต่ยังมีรายชื่อที่ยังตกหล่น โดยตอนนี้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบ น่าจะสามารถติดตามได้ทั้งหมด รวมถึงจะให้สำนักงานต่างประเทศของ กทม. ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์เพิ่มจากชายแดนของสถานทูตเมียนมา
ด้านการเยียวยาผู้เสียชีวิต กระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มวงเงินในการจัดการศพ ศพละ 100,000 บาท โดยที่ไม่ต้องคิดในรายละเอียดว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัวหรือไม่ พร้อมกำหนดว่าจะจ่ายเงินรอบแรกที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ขอเวลาให้ทาง กทม.เร่งนำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์
ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าภารกิจกู้ภัยผู้สูญหายจากซากอาคาร ณ เวลา 10.00 น. ของวันที่ 15 เม.ย. จำนวนผู้ประสบเหตุ 103 คน แยกเป็น ผู้เสียชีวิต 44 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 50 คน
- ตึก สตง.ถล่ม! ส.วิศวกรฯ ประเมิน 4 ปัจจัยก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม
- เคลียร์จบ! กทม.ประกาศสิ้นสุดสาธารณภัย “ตึกถล่ม สตง.”
- ศาลอนุมัติหมายจับ 17 ราย คดีตึก สตง.ถล่ม รื้อความรับผิดระบบก่อสร้างรัฐ
- นายกฯ ให้กำลังใจญาติผู้สูญเสียและบาดเจ็บ จากกรณีเหตุแผ่นดินไหว
- ตึกสตง. ถล่ม กทม. ปิดฉากภารกิจ 48 วัน เดินหน้าฟื้นฟู-ช่วยเหลือต่อเนื่อง
- ปภ.ทดสอบระบบเตือนภัย ใน 5 จังหวัด เสียงจะดัง 8 วินาที ไม่ต้องตกใจ แค่ทดสอบระบบ
- แนะเลี่ยง "ถนนกำแพงเพชร 2 ขาออก" ขนย้ายเครื่องจักร ปิดจราจรบางเวลา ถึง 15 พ.ค.68
