มุ่งเป้าภารกิจพาทุกร่างกลับบ้าน ลดหลั่นความสูงตึกสตง. ถล่ม ค้นหาผู้ประสบภัยใต้ซาก

มุ่งเป้าภารกิจพาทุกร่างกลับบ้าน ลดหลั่นความสูงตึกสตง. ถล่ม ค้นหาผู้ประสบภัยใต้ซาก

วันนี้ (23 เม.ย.68) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่ม เขตจตุจักร ว่า ขณะนี้ความสูงของซากอาคารในโซน A และ D จากเดิม 9.78 เมตร ลดลงอยู่ที่ 9.35 เมตร ส่วนโซน B และ C ยอดซากอาคารที่สูงที่สุดอยู่ที่ 8.58 เมตร ลดลงเหลือ 7.41 เมตร ในภาพรวมความเฉลี่ยลดลงมา 1 เมตร ถ้ายังสามารถคงระดับนี้ไว้ได้ คาดว่าภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ จะถึงพื้นชั้นที่ 1 ในส่วนของการทำงานจะทำแผนของชั้นใต้ดิน มีการประชุมกับทางทีมงาน โดยเฉพาะฝ่ายช่าง ตัวอาคารมีความกว้างยาวอยู่ประมาณ 40 x 40 เมตร ตัวด้านข้างด้านซ้ายจะมีทางที่เชื่อมกันแล้วเรารื้อออก เอารถเครื่องจักรหนักเข้าไปทำงาน วางแผนก็คือใช้ใช้พื้นที่ตรงนี้ เอาปูนที่ทับถมกันอยู่ออก ก็จะมีที่ว่างสำหรับที่จะ ขุดด้านข้างของตัวทั้งใต้ดิน ก็จะทำให้การทำงานคล้าย ๆ กับที่เราทำงานกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ระยะเวลาก็จะจบงานได้ภายในกำหนดไม่นานนัก การทำงานเราทำจากด้านบน มีการขุดเศษปูนออก แล้วตัดเหล็ก ที่ผ่านมาก็มีการลดระดับลงเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นความสูงก็จะลดลง ความหนาก็จะหายไป จะเหลือแค่ A4 กับ D1 ส่วน A1 A2 A3 ก็จะลดหายไปแล้ว 

สรุปข่าว

ความคืบหน้าเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่ม เขตจตุจักร ลดหลั่นความสูงอาคาร ค้นหาผู้ประสบภัยใต้ซาก มุ่งเป้าภารกิจพาทุกร่างกลับบ้าน

วันนี้ (23 เม.ย.68) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่ม เขตจตุจักร ว่า ขณะนี้ความสูงของซากอาคารในโซน A และ D จากเดิม 9.78 เมตร ลดลงอยู่ที่ 9.35 เมตร ส่วนโซน B และ C ยอดซากอาคารที่สูงที่สุดอยู่ที่ 8.58 เมตร ลดลงเหลือ 7.41 เมตร ในภาพรวมความเฉลี่ยลดลงมา 1 เมตร ถ้ายังสามารถคงระดับนี้ไว้ได้ คาดว่าภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ จะถึงพื้นชั้นที่ 1 ในส่วนของการทำงานจะทำแผนของชั้นใต้ดิน มีการประชุมกับทางทีมงาน โดยเฉพาะฝ่ายช่าง ตัวอาคารมีความกว้างยาวอยู่ประมาณ 40 x 40 เมตร ตัวด้านข้างด้านซ้ายจะมีทางที่เชื่อมกันแล้วเรารื้อออก เอารถเครื่องจักรหนักเข้าไปทำงาน วางแผนก็คือใช้ใช้พื้นที่ตรงนี้ เอาปูนที่ทับถมกันอยู่ออก ก็จะมีที่ว่างสำหรับที่จะ ขุดด้านข้างของตัวทั้งใต้ดิน ก็จะทำให้การทำงานคล้าย ๆ กับที่เราทำงานกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ระยะเวลาก็จะจบงานได้ภายในกำหนดไม่นานนัก การทำงานเราทำจากด้านบน มีการขุดเศษปูนออก แล้วตัดเหล็ก ที่ผ่านมาก็มีการลดระดับลงเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นความสูงก็จะลดลง ความหนาก็จะหายไป จะเหลือแค่ A4 กับ D1 ส่วน A1 A2 A3 ก็จะลดหายไปแล้ว 

ในส่วนของความยาก ก็ยังคงเหมือนเดิม คือตัวเหล็ก เพราะว่าตัวเหล็ก ทำให้เครื่องมือเราก็เสียหาย ซึ่งก็ได้ซ่อมแซมไป เมื่อวานก็เสียหายไป 8 เคส แต่เคสหนัก ๆ คือ บูมหัก ของเบอร์ 18 บูมหักเลย ก็ซ่อมไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่ เท่ากับว่าวันนี้เครื่องจักรเราหายไปแล้ว 1 ตัว ส่วนเมื่อวานเป็นเคสที่เราซ่อมสายไฮโดริก เราก็เปลี่ยนเลย ซึ่งเราเตรียมสายไว้แล้วอยู่บนหลังรถ พอถึงเวลาก็เอาสายมาเปลี่ยนหน้างานเลย ก็จะช่วยทำงานได้เร็วขึ้น ซึ่งมีทีมงานช่างจากกองโรงงานช่างกล สำนักงานการคลัง กทม. ที่จัดทีมช่างเข้าไปช่วยดำเนินการ

ส่วนการพบร่างผู้สูญหาย เมื่อวานช่วง 10 โมงกว่า กับตอนเที่ยงกว่า เราเจอ 2 ร่างตรงช่วงบันได หลังจากนั้นก็ยังไม่พบเพิ่ม จะเจอเป็นเคสแค่นั้น เคสก็เป็นชิ้นส่วนอยู่ประมาณ 4 เคส จากการประเมินพฤติกรรมคนก็ต้องวิ่งหนีลงด้านล่างต่ำกว่าชั้น 15 ลงมา จากข้อมูลพบว่ามีคนทำงานอยู่ประมาณ 40 คน ตอนนี้พบตัวช่องบันได ป้ายของชั้น 11 ส่วนที่วิเคราะห์กันอยู่ เนื่องจากว่าตัวลิฟต์กับตัวบันไดหนีไฟ จะมีความแข็ง ไม่แตกละเอียด แล้วยังมีความโปร่งที่จะสูงกว่า เพราะฉะนั้นการพบร่างในช่องบันได ก็เป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์ แต่ว่าก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าระดับที่เจอเป็นระดับตรงนั้นจริง ๆ ทั้งหมด 


สำหรับการทำงานของเครื่องจักรหนัก ตอนนี้เรามีอยู่ประมาณ 30 ตัว มีการผลัดเปลี่ยนคนขับในการทำงาน ซึ่งก็มีเอกชนที่มาช่วย ส่วนของทหารก็มีการผลัดเปลี่ยนกำลัง ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีการผลัดเปลี่ยนกำลังตามการทำงาน นอกจากนี้ยังมีคนขับเครื่องจักรหนักของทางราชการเข้าไปเสริมอีก ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมทุ่มเทการทำงาน ต่างก็ยืนยันในเป้าหมายเดียวกัน คืออยากจะนำร่างออกไปได้ครบ ก็คงจะอยู่ด้วยกันจนจบงาน ถ้าดูเนื้องานเป็นเปอร์เซ็นต์ ในภาพรวมก็น่าจะใกล้ 70 % แล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ นัดหารือผลสอบตึกสตง. ถล่ม วันนี้ ย้ำภาพรวมเร่งอยู่ตลอด ไม่ได้ปล่อยมือ

ปภ. เตรียมทดสอบส่งข้อความเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast

คืบหน้าตึกสตง. ถล่ม สรุปยอดเสียชีวิตล่าสุด 44 ราย อยู่ระหว่างติดตาม 50 ราย

ที่มาข้อมูล : กรุงเทพมหานคร

ที่มารูปภาพ : กรุงเทพมหานคร