เตือนช่วงหน้าฝน แนะวิธีรับมือ-สังเกตสัญญาณเตือนน้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม

เตือนช่วงหน้าฝน แนะวิธีรับมือ-สังเกตสัญญาณเตือนน้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทำให้มีปริมาณน้ำสะสม จึงมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน อีกทั้งบริเวณพื้นที่ลาดชัน ที่ราบเชิงเขา หมู่บ้านที่ติดลำห้วยริมธารน้ำตกยังเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม  เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีรับมือและสังเกตสัญญาณเตือนน้ำป่าไหลหลาก - ดินโคลนถล่ม ดังนี้  

วิธีรับมือและสังเกตสัญญาณเตือนน้ำป่าไหลหลาก - ดินโคลนถล่ม

หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศแจ้งเตือนภัย ติดตามสถานการณ์ของน้ำ พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ หากมีฝนตกต่อเนื่องให้สังเกตระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำลำคลอง เพื่อเตรียมรับมือให้ทันท่วงที พร้อมหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ อาทิ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน หรือนานกว่า 6 ชั่วโมง ระดับน้ำในแม่น้ำและลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

สรุปข่าว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะประชาชนช่วงหน้าฝนให้เฝ้าระวังติดตามพยากรณ์อากาศ ติดตามสถานการณ์น้ำ และประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการ สังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ หากระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงรวดเร็ว น้ำมีสีขุ่นมีกิ่งไม้หรือท่อนไม้ไหลปนมากับกระแสน้ำ และได้ยินเสียงผิดปกติจากภูเขาหรือสัตว์แตกตื่น ให้รีบขนย้ายสิ่งของแล้วอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย อีกทั้งไม่กลับเข้าไปในพื้นที่ดินถล่ม เพราะเสี่ยงได้รับอันตรายจากดินโคลนถล่มซ้ำได้

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทำให้มีปริมาณน้ำสะสม จึงมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน อีกทั้งบริเวณพื้นที่ลาดชัน ที่ราบเชิงเขา หมู่บ้านที่ติดลำห้วยริมธารน้ำตกยังเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม  เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีรับมือและสังเกตสัญญาณเตือนน้ำป่าไหลหลาก - ดินโคลนถล่ม ดังนี้  

วิธีรับมือและสังเกตสัญญาณเตือนน้ำป่าไหลหลาก - ดินโคลนถล่ม

หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศแจ้งเตือนภัย ติดตามสถานการณ์ของน้ำ พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ หากมีฝนตกต่อเนื่องให้สังเกตระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำลำคลอง เพื่อเตรียมรับมือให้ทันท่วงที พร้อมหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ อาทิ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน หรือนานกว่า 6 ชั่วโมง ระดับน้ำในแม่น้ำและลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยน้ำมีสีขุ่นมากกว่าปกติหรือเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินภูเขา มีกิ่งไม้หรือท่อนไม้ไหลมากับกระแสน้ำ มีเสียงดังผิดปกติจากภูเขาหรือลำห้วย อาทิ เสียงหักของต้นไม้ เสียงแตกของหิน สัตว์ป่าแตกตื่น ให้รีบขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินให้พ้นระดับน้ำ และเตรียมอพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัยให้พ้นจากแนวการไหลของดินโดยการขึ้นที่สูงซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ประสบภัยดินถล่มอย่างน้อย 2-5 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากลำน้ำให้มากที่สุด เนื่องจากน้ำจะพัดพาดิน หิน และต้นไม้มาตามลำน้ำก่อให้เกิดอันตรายได้ พร้อมหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นแนวการไหลของดินหรือมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว

หากจำเป็นให้ใช้เชือกผูกลำตัว พร้อมยึดเชือกไว้กับต้นไม้หรือสิ่งปลูกสร้างที่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันกระแสน้ำพัดจมน้ำ  หากพลัดตกน้ำ ให้หาต้นไม้ใหญ่ยึดเกาะและปีนให้พ้นน้ำ ห้ามว่ายน้ำหนีโดยเด็ดขาดเพราะอาจกระแทกกับซากต้นไม้หรือหินที่ไหลมาตามน้ำ ทำให้จมน้ำเสียชีวิต  รวมถึงไม่กลับเข้าไปในพื้นที่ดินโคลนถล่ม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายซ้ำ 

จัดเตรียมสิ่งของเผื่อไว้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ควรจัดเตรียม ถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ไฟฉาย แบตเตอรี่สำรอง โทรศัพท์มือถือ และเอกสารสำคัญไว้ในซองกันน้ำเผื่อไว้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้การดำเนินชีวิตในช่วงฤดูฝนเป็นไปด้วยความปลอดภัย 

ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews  Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาข้อมูล : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

ที่มารูปภาพ : AFP