
จากพื้นที่เสี่ยง...สู่แนวทางคุ้มครองเด็กอย่างเป็นระบบ
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เซฟ เดอะ ชิลเดรน ประเทศไทยร่วมกับภาคีในจังหวัดยะลา ดำเนินโครงการ “การพัฒนาแผนรับมือและการคุ้มครองเด็กในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระยะที่ 2” ครอบคลุม 6 ชุมชน 7 โรงเรียน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ตั้งแต่ครู นักเรียน ผู้นำชุมชน ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จุดมุ่งหมายของโครงการไม่ใช่เพียงฝึกซ้อมอพยพหรือทำแผนจำลองเท่านั้น หากแต่คือการพัฒนาแนวทางที่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่เสี่ยง เพื่อสร้างระบบที่ทำงานได้จริงเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน
สรุปข่าว
จากพื้นที่เสี่ยง...สู่แนวทางคุ้มครองเด็กอย่างเป็นระบบ
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เซฟ เดอะ ชิลเดรน ประเทศไทยร่วมกับภาคีในจังหวัดยะลา ดำเนินโครงการ “การพัฒนาแผนรับมือและการคุ้มครองเด็กในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระยะที่ 2” ครอบคลุม 6 ชุมชน 7 โรงเรียน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ตั้งแต่ครู นักเรียน ผู้นำชุมชน ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จุดมุ่งหมายของโครงการไม่ใช่เพียงฝึกซ้อมอพยพหรือทำแผนจำลองเท่านั้น หากแต่คือการพัฒนาแนวทางที่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่เสี่ยง เพื่อสร้างระบบที่ทำงานได้จริงเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน
โครงการได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแห่งสหภาพยุโรป (ECHO) และร่วมดำเนินการโดยสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (ลูกเหรียง) กับมูลนิธินูซันตาราเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา จุดเด่นสำคัญคือการเน้น “การมีส่วนร่วมของเด็ก” และเชื่อมโยงงานในระดับพื้นที่กับกรอบนโยบายระดับชาติ อาทิ ยุทธศาสตร์การปกป้องคุ้มครองเด็กของกรมกิจการเด็กและเยาวชน และยุทธศาสตร์โรงเรียนปลอดภัยของกระทรวงศึกษาธิการ
ไม่ใช่เพียงแผน แต่คือการผลักดันเชิงนโยบาย
จากประสบการณ์ตรงในจังหวัดยะลา โครงการได้นำบทเรียนจากการลงมือทำมาพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อให้สามารถขยายผลไปยังจังหวัดอื่นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน จุดเน้นคือการผลักดันให้ “การคุ้มครองเด็กในสถานการณ์ฉุกเฉิน” กลายเป็นภารกิจที่รัฐต้องจัดงบประมาณและบุคลากรรองรับอย่างจริงจัง
นายกีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร เซฟ เดอะ ชิลเดรน ประเทศไทย ระบุว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุดในไทยเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าโลกปัจจุบันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังนั้น การเตรียมความพร้อมของชุมชน โรงเรียน และรัฐจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อปกป้องสิทธิและชีวิตของเด็กจากทุกสถานการณ์ไม่คาดฝัน
เด็กและชุมชนมีบทบาท ไม่ใช่แค่ผู้รับการช่วยเหลือ
หัวใจของโครงการ คือการสร้างระบบที่ให้เด็ก เยาวชน และอาสาสมัครท้องถิ่นมีบทบาทในการวางแผนและฝึกซ้อมร่วมกับโรงเรียนและชุมชน ไม่ใช่แค่ทำตามแบบแผนที่รัฐกำหนด แต่เป็นการออกแบบร่วมกันจากรากฐานของพื้นที่
กิจกรรมในวันสรุปโครงการมีทั้งการฝึกซ้อมแผนจำลองรับมือเหตุระเบิด การเสวนาระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และการนำเสนอผลลัพธ์จากพื้นที่จริง โดยเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายแสดงบทบาทอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็ก
ปักหมุด “ความปลอดภัยของเด็ก” บนแผนที่นโยบาย
เซฟ เดอะ ชิลเดรน เน้นย้ำว่าความร่วมมือข้ามภาคส่วน — จากท้องถิ่นถึงระดับชาติ — คือกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ โครงการนี้จึงไม่เพียงเน้นผลลัพธ์ในระดับชุมชน แต่ยังวางรากฐานให้เกิด “การลงทุนในระบบคุ้มครองเด็ก” ที่ยั่งยืน เพื่อรับมือกับทุกวิกฤตที่จะเกิดขึ้น
- “กรีซ” ประกาศภาวะฉุกเฉิน เผชิญไฟป่าครั้งใหญ่ เข้าวันที่ 3 ยังคุมไม่ได้ ไฟลามเข้าชุมชน
- คลื่นความร้อนถล่มทั่วโลก นิวยอร์ก-ปักกิ่งแตะ 38 องศาฯ
- เอเชียสาหัส โลกร้อนกระหน่ำทุกมิติ WMO ชี้หายนะยังไม่หยุดแค่นี้
- จีนตอนใต้น้ำท่วมใหญ่ แม่น้ำเกินระดับวิกฤต “หูหนาน” ท่วมหนักสุดในรอบ 27 ปี
- แผ่นดินไหว 3.2 เขย่า “เชียงใหม่” สาเหตุจากรอยเลื่อนเวียงแหงขยับตัว
- พรุ่งนี้อาจไม่มีให้ฝัน ชีวิตเด็กในยุคโลกร้อน
- ประชุม 22 ลุ่มน้ำ เร่งดันแผนภัยพิบัติด้านน้ำเชิงรุก รับมือฝนปีนี้
ที่มาข้อมูล : เซฟ เดอะ ชิลเดรน
ที่มารูปภาพ : เซฟ เดอะ ชิลเดรน
