ไทยสั่งอพยพชายแดน 50 กม. โต้กัมพูชายิงก่อน-ไม่ประกาศสงคราม

ไทยสั่งอพยพชายแดน 50 กม. โต้กัมพูชายิงก่อน-ไม่ประกาศสงคราม

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ ร่วมกับผู้แทนจากเหล่าทัพ โดยย้ำว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน และใช้กระสุนหนักถล่มใส่พื้นที่ที่ไม่มีเป้าหมายทางทหารชัดเจน ส่งผลให้พลเรือนไทยเสียชีวิต 10 ราย และทหารอีก 1 นาย บาดเจ็บรวม 28 ราย


สรุปข่าว

ภูมิธรรมเผยกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนทำพลเรือนไทยเสียชีวิต 10 ราย ทหาร 1 นาย ไทยยังไม่ประกาศสงครามแต่ให้กองทัพรับมือเต็มที่ พร้อมอพยพประชาชน 4 จังหวัดชายแดนออกนอกพื้นที่ 50 กม. แจงยูเอ็นรับทราบแล้ว

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ ร่วมกับผู้แทนจากเหล่าทัพ โดยย้ำว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน และใช้กระสุนหนักถล่มใส่พื้นที่ที่ไม่มีเป้าหมายทางทหารชัดเจน ส่งผลให้พลเรือนไทยเสียชีวิต 10 ราย และทหารอีก 1 นาย บาดเจ็บรวม 28 ราย


นายภูมิธรรมระบุว่า ไทยยังไม่ประกาศสงคราม แต่จำเป็นต้องมอบอำนาจให้กองทัพใช้ดุลยพินิจปฏิบัติการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมสั่งอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดน คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ให้ออกจากแนวชายแดนระยะ 50 กิโลเมตร ขณะเดียวกันได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามและปิดโรงเรียนแนวหน้าแล้ว

รัฐบาลยังยืนยันไม่ใช้มาตรการทางการทูตกับกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะยุติ และไม่จำเป็นต้องให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาเป็นตัวกลาง พร้อมระบุว่าไทยได้แจ้งสหประชาชาติผ่านรัฐมนตรีต่างประเทศที่นิวยอร์กแล้ว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า จุดปะทะสำคัญเกิดจากการลาดตระเวนในพื้นที่พิพาทตามข้อตกลงเดิม แต่มีการใช้ทุ่นระเบิดในฝั่งไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิด ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้รับมอบอำนาจบริหารยุทธการเต็มรูปแบบและรายงานสถานการณ์ต่อรัฐบาล

ส่วนกรณีที่กัมพูชายื่นหนังสือถึงยูเอ็น ไทยได้หารือกับเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียบร้อยแล้ว โดยจะให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แถลงรายละเอียด

นายภูมิธรรมย้ำว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนทุกคน และจะไม่ยอมให้ประเทศสูญเสียอธิปไตย พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และไม่เผยแพร่ข่าวลือที่อาจทำให้สถานการณ์บานปลาย

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

บรรณาธิการออนไลน์