
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงานร่วมคณะ อาทิ นายสันติ นันตสุวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน และนางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน
นายพงศ์กวิน กล่าวว่า จากความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน ส่งผลให้ทั้งทหาร พลเรือน และแรงงานได้รับผลกระทบ กระทรวงแรงงานจึงบูรณาการทุกหน่วยงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน
มาตรการช่วยเหลือแรงงานที่ประกาศในครั้งนี้ ประกอบด้วย:
-การจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ส่วนกลางและศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด เพื่อรวบรวมข้อมูลและประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง
-กรมการจัดหางานสนับสนุนโรงครัวประกอบอาหาร อำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายแรงงานไทย–กัมพูชา พร้อมผ่อนผันบัตรผ่านแดนให้แรงงานทำงานต่อได้
-กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดสถานที่ในสังกัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยฟื้นฟูที่อยู่อาศัยประชาชน
-กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขอความร่วมมือสถานประกอบการให้ลูกจ้างหยุดงานได้โดยไม่ถือเป็นวันลา
-สำนักงานประกันสังคมเร่งให้บริการผู้ประกันตนโดยไม่เก็บค่ารักษาพยาบาล และเบิกจ่ายกรณีฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง
สำหรับสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน กระทรวงแรงงานดูแลครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 บาท และค่าทำศพ 50,000 บาท หากเสียชีวิต ทายาทยังได้รับเงินทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นเวลา 10 ปี พร้อมเงินบำเหน็จชราภาพ ส่วนผู้บาดเจ็บหรือสูญเสียอวัยวะจะได้รับค่าทดแทนตามสิทธิ
สรุปข่าว
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงานร่วมคณะ อาทิ นายสันติ นันตสุวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน และนางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน
นายพงศ์กวิน กล่าวว่า จากความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน ส่งผลให้ทั้งทหาร พลเรือน และแรงงานได้รับผลกระทบ กระทรวงแรงงานจึงบูรณาการทุกหน่วยงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน
มาตรการช่วยเหลือแรงงานที่ประกาศในครั้งนี้ ประกอบด้วย:
-การจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ส่วนกลางและศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด เพื่อรวบรวมข้อมูลและประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง
-กรมการจัดหางานสนับสนุนโรงครัวประกอบอาหาร อำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายแรงงานไทย–กัมพูชา พร้อมผ่อนผันบัตรผ่านแดนให้แรงงานทำงานต่อได้
-กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดสถานที่ในสังกัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยฟื้นฟูที่อยู่อาศัยประชาชน
-กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขอความร่วมมือสถานประกอบการให้ลูกจ้างหยุดงานได้โดยไม่ถือเป็นวันลา
-สำนักงานประกันสังคมเร่งให้บริการผู้ประกันตนโดยไม่เก็บค่ารักษาพยาบาล และเบิกจ่ายกรณีฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง
สำหรับสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน กระทรวงแรงงานดูแลครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 บาท และค่าทำศพ 50,000 บาท หากเสียชีวิต ทายาทยังได้รับเงินทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นเวลา 10 ปี พร้อมเงินบำเหน็จชราภาพ ส่วนผู้บาดเจ็บหรือสูญเสียอวัยวะจะได้รับค่าทดแทนตามสิทธิ
- Gulf War Syndrome ผลกระทบสุขภาพทหาร ที่ผ่านการทำศึกสงคราม
- เนิน 350 ปราสาทตาควาย จุดยุทธศาสตร์ชายแดนไทย–กัมพูชา
- ยังไม่ยึดเนิน 350! ทัพภาค 2 ชี้เหตุหยุดยิงก่อน ปราสาทตาควายยังคุมกันคนละฝั่ง
- ละเมิด "หยุดยิง" ไทยควรจัดการกัมพูชาอย่างไร? เมื่อสัญญาไม่เป็นสัญญา
- ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส คำสัตย์ทหาร ร.31 รอ. ที่ยึดมั่นเหนือชีวิต
- กองทัพบกยืนยัน เหตุปะทะภูมะเขือ–ช่องอานม้า ฝ่ายกัมพูชายิงใส่ฐานไทย
- กองทัพภาคที่ 2 ควบคุมตัวทหารกัมพูชาหลังเหตุปะทะ ยึดหลักมนุษยธรรมดูแลผู้บาดเจ็บ
ที่มาข้อมูล : กระทรวงแรงงาน
ที่มารูปภาพ : กระทรวงแรงงาน
