รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจโครงการคลองรางอ้อ-รางแก้ว มั่นใจเจ้าพระยายังปลอดภัย ฝนถล่มต่อหลายวัน

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะจากสำนักการระบายน้ำ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ คลองรางอ้อ – รางแก้ว บริเวณถนนพหลโยธินถึงถนนรามอินทรา เขตบางเขน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนสายหลักและพื้นที่ชุมชนในเขตบางเขน

รองผู้ว่าฯ วิศณุ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาน้ำท่วมบนถนนพหลโยธิน ช่วงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญถึงซอยพหลโยธิน 67 และถนนรามอินทรา ช่วงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญถึงซอยรามอินทรา 13 รวมถึงพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของเขตบางเขน ครอบคลุมหมู่บ้านกว่า 10 แห่ง รวมพื้นที่ประมาณ 3 ตารางกิโลเมตร โดยสามารถระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ โครงการฯ ใช้แนวคิด “แก้มลิงธรรมชาติ” โดยอาศัยบ่อหน่วงน้ำในชุมชนและหมู่บ้านเอกชนมาช่วยเสริมระบบ ก่อนปล่อยน้ำลงสู่คลองลาดพร้าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2569 ล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อยเพราะต้องหลีกเลี่ยงการบล็อกน้ำในช่วงฤดูฝน

ด้านสถานการณ์น้ำเหนือ นายศุภมิตร ลายทอง รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ระบุว่า เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) กรมชลประทานทยอยเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จาก 2,000 เป็น 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวเสริมว่า กทม. มีแนวเขื่อนริมเจ้าพระยาสูง 2.80 – 3.50 เมตร ขณะที่ระดับน้ำสูงสุดวันนี้อยู่ที่เพียง +2 ม.รทก. หากน้ำเหนือเพิ่มขึ้นก็ไม่เกิน 30 เซนติเมตร จึงยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แต่ได้เสริมแนวคันกั้นน้ำและกระสอบทรายในจุดเปราะบาง เช่น ใต้สะพานพระราม 8 และบริเวณท่าเรือ

สำหรับสถานการณ์ฝน กทม. คาดว่าจะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องระหว่างวันที่ 17 – 21 ก.ย. โดยปริมาณฝนสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึง 15 ก.ย. อยู่ที่ 1,300.5 มิลลิเมตร ใกล้ค่าเฉลี่ยระยะยาว 30 ปี ที่เดือนกันยายนจะอยู่ราว 1,600 มิลลิเมตร ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะในปี 2565 เคยเกิดฝนทะลุกราฟในเดือนเดียวมาแล้ว

ทั้งนี้ เขตที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ ดอนเมือง โดยเฉพาะบริเวณถนนช่างอากาศอุทิศ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ ท่อระบายน้ำขนาดเล็ก และมีการก่อสร้างต่อเนื่อง กทม. เตรียมมาตรการเร่งบรรเทาผลกระทบ เพื่อป้องกันน้ำท่วมและลดความเดือดร้อนของประชาชน