
กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยความชอบด้วยกฎหมายของการแต่งตั้งนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข เป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กลายเป็นประเด็นสำคัญในทางกฎหมาย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตีความเรื่อง “วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ป.ป.ช.” ภายใต้การเปลี่ยนผ่านของกฎหมายจากฉบับเดิมสู่ฉบับใหม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุในคำร้องว่า กรรมการบางคนของ ป.ป.ช. หมดวาระตามกฎหมายแล้ว จึงไม่ควรมีสิทธิ์ลงมติเลือกประธานคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงว่า การเลือกตั้งประธานดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 อย่างถูกต้อง
สรุปข่าว
กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยความชอบด้วยกฎหมายของการแต่งตั้งนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข เป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กลายเป็นประเด็นสำคัญในทางกฎหมาย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตีความเรื่อง “วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ป.ป.ช.” ภายใต้การเปลี่ยนผ่านของกฎหมายจากฉบับเดิมสู่ฉบับใหม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุในคำร้องว่า กรรมการบางคนของ ป.ป.ช. หมดวาระตามกฎหมายแล้ว จึงไม่ควรมีสิทธิ์ลงมติเลือกประธานคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงว่า การเลือกตั้งประธานดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 อย่างถูกต้อง
ความต่างของกฎหมายเก่าและใหม่
สาเหตุที่เกิดข้อโต้แย้ง มาจากการเปลี่ยนแปลงของวาระกรรมการ ป.ป.ช. เดิมที่กำหนดไว้ 9 ปี ในขณะที่กฎหมายฉบับปัจจุบันลดเหลือ 7 ปี แต่ยังมีบทเฉพาะกาลกำหนดให้กรรมการชุดเก่าปฏิบัติหน้าที่ต่อได้จนกว่าจะมีผู้มาแทน เพื่อไม่ให้เกิด “สุญญากาศทางกฎหมาย” ในกระบวนการตรวจสอบการทุจริตของรัฐ
กรณีของนายวิทยา อาคมพิทักษ์ และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ซึ่งได้รับแต่งตั้งในช่วงปี 2558 ตามกฎหมายเดิม จึงยังคงมีสิทธิ์ทำหน้าที่ลงมติเลือกประธาน ป.ป.ช. ได้ เพราะทั้งคู่ยังไม่ครบอายุเกษียณ 70 ปี และยังไม่มีกรรมการใหม่เข้ามาแทน
ขั้นตอนการเลือกตั้งประธาน ป.ป.ช.
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติ 5 ต่อ 2 เสียง เห็นชอบให้นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. หลังจาก พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ พ้นตำแหน่งครบอายุราชการ ต่อมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีประกาศโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
จากกระบวนการดังกล่าว นักกฎหมายหลายฝ่ายมองว่าเป็นไปตามมาตรา 232 และ 233 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ประกอบกับมาตรา 14 และ 18 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561 ซึ่งรองรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการที่ยังไม่ครบอายุ 70 ปี
มุมมองทางกฎหมาย
นักวิชาการด้านกฎหมายอธิบายว่า การพิจารณาเรื่องวาระของกรรมการ ป.ป.ช. ต้องใช้หลัก “กฎหมายคู่ขนาน” คือ การนำทั้งกฎหมายเดิมและฉบับใหม่มาประกอบกัน เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนผ่านตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้การทำงานขององค์กรอิสระไม่สะดุด
ดังนั้น คำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงอยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาจากศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตีความตามแนวทางใด และจะมีผลกระทบต่อหลักเกณฑ์การสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่อย่างไรในอนาคต
ความเคลื่อนไหวล่าสุด
ขณะนี้วุฒิสภาเตรียมพิจารณารายชื่อกรรมการ ป.ป.ช. ใหม่สองตำแหน่ง เพื่อทดแทนผู้ที่พ้นวาระ หากผ่านความเห็นชอบและได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง จะทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีสมาชิกครบ 8 คน จาก 9 คนตามที่กฎหมายกำหนด
- คนละครึ่งพลัส ปัดฝุ่น อัพเกรดใหม่ กระตุ้นใช้จ่ายทั่วประเทศ
- กูรู!!! ลิสต์หุ้นปัง เกาะกระแส “คนละครึ่งพลัส”
- เช็กหุ้นเด่น! รับอานิสงส์ “คนละครึ่งพลัส-แก้หนี้รายย่อย” มีตัวไหนกันบ้าง
- โบรกฯ คาด "คนละครึ่งพลัส" หนุนยอดขายค้าปลีก Q4/68 มองช่วยกระตุ้นใช้จ่าย ดัน SSSG ฟื้นตัว
- ย้อนดูงบคนละครึ่งทุกเฟส ก่อนถึงคนละครึ่งพลัส 44,000 ล้านปี 2568
