
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า นับตั้งเเต่โครงการคนละครึ่งทั้ง 5 เฟส โดยมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดและวงเงินสนับสนุนในแต่ละช่วงเวลา โดยพบว่า SET Index ปรับตัวขึ้น 4 ใน 5 ครั้ง ที่ดำเนินโครงการคนละครึ่งและมีผลตอบแทน (นับเฉพาะ Capital gain/loss) เฉลี่ย 6.9% โดยมี Sector ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย Outperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index ได้แก่
1. กลุ่มธนาคาร (BANK)
2.กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN)
3.กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA)
4.กลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)
5. และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
6.กลุ่มพาณิชย์ (COMM) แม้มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index
สำหรับกลุ่มพาณิชย์ (COMM) แม้มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index หากแต่เรามองว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีแนวโน้มเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์เป็นอันดับต้น ๆ จากโครงการข้างต้น และหากพิจารณาผลตอบแทนพบว่ายังอยู่ในโซนบวก โดยกลุ่ม COMM ปรับตัวขึ้น 4 ใน 5 ครั้ง และมีผลตอบแทนโดยเฉลี่ย 5.2%
สรุปข่าว
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า นับตั้งเเต่โครงการคนละครึ่งทั้ง 5 เฟส โดยมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดและวงเงินสนับสนุนในแต่ละช่วงเวลา โดยพบว่า SET Index ปรับตัวขึ้น 4 ใน 5 ครั้ง ที่ดำเนินโครงการคนละครึ่งและมีผลตอบแทน (นับเฉพาะ Capital gain/loss) เฉลี่ย 6.9% โดยมี Sector ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย Outperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index ได้แก่
1. กลุ่มธนาคาร (BANK)
2.กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN)
3.กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA)
4.กลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)
5. และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
6.กลุ่มพาณิชย์ (COMM) แม้มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index
สำหรับกลุ่มพาณิชย์ (COMM) แม้มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index หากแต่เรามองว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีแนวโน้มเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์เป็นอันดับต้น ๆ จากโครงการข้างต้น และหากพิจารณาผลตอบแทนพบว่ายังอยู่ในโซนบวก โดยกลุ่ม COMM ปรับตัวขึ้น 4 ใน 5 ครั้ง และมีผลตอบแทนโดยเฉลี่ย 5.2%

แนะนำเก็งกำไรในหุ้นในกลุ่มที่ Outperform เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index รวมถึงหุ้นในกลุ่ม COMM ในช่วงเวลาที่ดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส โดยในที่นี้จะโฟกัสไปที่ในส่วนของประชาชนทั่วไป หรือในช่วงประมาณสิ้นเดือนตุลาคม ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 68 (เนื่องจากในส่วนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นลักษณะของการให้เปล่า มากกว่าที่จะเป็นการร่วมจ่าย)
แนะนำเก็งกำไรในหุ้นในกลุ่มที่ Outperform ให้ Top pick โครงการ "คนละครึ่งพลัส"
กลุ่มธนาคาร KTB ผลตอบแทนเฉลี่ย 13.2%
กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ AEONTS ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.8%
กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ TKS ผลตอบแทนเฉลี่ย 23.5%
กลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ MINT ผลตอบแทนเฉลี่ย 12.9%
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ADVANC ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.6%
กลุ่มพาณิชย์ BJC ผลตอบแทนเฉลี่ย 5.4%
อย่างไรก็ตาม แม้ KTB และ ADVANC จะมีผลตอบแทนเฉลี่ย Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับ Sector แต่สาเหตุที่เราเลือกเป็น Top Pick เนื่องจาก KTB เป็นธนาคารที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งมากที่สุด สอดรับกับการที่เป็นผู้ดำเนินการแอปฯเป๋าตัง ส่วน ADVANC มีคะแนนรวมจาก CoreSight ของ PhillipResearch มากกว่า TRUE อย่างมีนัยสำคัญ และผลตอบแทนในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
- เช็กหุ้นเด่น! รับอานิสงส์ “คนละครึ่งพลัส-แก้หนี้รายย่อย” มีตัวไหนกันบ้าง
- ชี้เป้าหุ้นรับอานิสงส์ "คนละครึ่งพลัส" จ่อเข้าครม.สัปดาห์หน้า
- โบรกฯ คาด "คนละครึ่งพลัส" หนุนยอดขายค้าปลีก Q4/68 มองช่วยกระตุ้นใช้จ่าย ดัน SSSG ฟื้นตัว
- ย้อนดูงบคนละครึ่งทุกเฟส ก่อนถึงคนละครึ่งพลัส 44,000 ล้านปี 2568
- หุ้นไทยวันนี้ 1 ตุลาคม 2568 ปิดบวก 0.86 จุด ไร้ปัจจัยใหม่-เกาะติดชัตดาวน์สหรัฐฯ
ที่มาข้อมูล : บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)
ที่มารูปภาพ : TNN Wealth
