ชลประทานยืนยัน “เขื่อนขุนด่านปราการชล” มั่นคงแข็งแรง น้ำไม่ล้นเขื่อน

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568: ระดับน้ำอยู่ที่ $+109.53$ ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ปริมาณน้ำประมาณ 220 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น $98\%$ ของความจุเก็บกักปกติ ($224$ ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก $3.95$ ลบ.ม.

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568: มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้น $4.21$ ลบ.ม. จากฝนตกสะสมในพื้นที่น้ำตกเหวนรก (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนอยู่ที่ $+110.35$ ม.รทก. หรือ เต็มความจุเก็บกักปกติพอดี

ปรากฏการณ์ "น้ำกระฉอก" ไม่ใช่ "น้ำล้น"

กรมชลประทานยืนยันว่า เขื่อนขุนด่านปราการชลถูกออกแบบให้สามารถรองรับน้ำได้ถึงระดับเก็บกักสูงสุด (Maximum Capacity) ที่ $226$ ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นจึงยังมีความปลอดภัยและมั่นคงแข็งแรง

ภาพหรือคลิปที่ปรากฏว่าเหมือนน้ำล้นเขื่อนนั้น แท้จริงแล้วเกิดจาก แรงลมและคลื่นภายในอ่างเก็บน้ำ ที่พัดแรงจนทำให้น้ำ "กระฉอก" ออกมาทางช่องระบายน้ำล้น (Spillway) เล็กน้อย ซึ่งเป็น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พบได้ในเขื่อนขนาดใหญ่ เมื่อระดับน้ำเต็มอ่างเก็บน้ำ

สถานการณ์ปัจจุบัน

ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568: ระดับน้ำอยู่ที่ $+109.67$ ม.รทก. ปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ $220.74$ ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น $98\%$ ของความจุเก็บกักปกติ และยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ $3.24$ ลบ.ม.

สถานการณ์น้ำโดยรวมถือว่าอยู่ในภาวะปกติ และไม่มีรายงานฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่เหนือเขื่อน

กรมชลประทานจึงขอให้ประชาชนคลายความกังวลและมั่นใจในการบริหารจัดการน้ำของกรมฯ ที่มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทานและเฝ้าระวังระดับน้ำตลอดทั้งปี