กรมการข้าว รับรอง "ข้าวหอมสยาม" ทางเลือกใหม่ ชาวนาไทย

Share on Line Share on Facebook Share on X
กรมการข้าว รับรอง "ข้าวหอมสยาม"  ทางเลือกใหม่ ชาวนาไทย

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ออกมายืนยันชัดเจนว่า “ข้าวหอมสยาม” เป็นพันธุ์ข้าวที่ปลอดภัย พัฒนาผ่านกระบวนการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติ ไม่ใช่ข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) และไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อแทนที่ “ข้าวหอมมะลิ” ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลกังวลก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่าข้าวหอมสยามได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช (ร.พ.2) จากกรมวิชาการเกษตรตั้งแต่ปี 2565 แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการรับรองพันธุ์โดยกรมการข้าว เพื่อผลักดันให้เป็น “ข้าวทางเลือก” คุณภาพสูงแก่เกษตรกรไทย

ข้าวหอมสยามไม่ใช่ GMO คัดเลือกสายพันธุ์ตามธรรมชาติ


ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผยว่า ไบโอเทค สวทช. ดำเนินงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และกรมการข้าวมากว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง แข็งแรง ทนโรค ทนแล้ง และตอบโจทย์สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง


สำหรับ “ข้าวหอมสยาม” เป็นข้าวเจ้าหอม นุ่ม ให้ผลผลิตสูง และไวต่อแสง ปรับตัวได้ดีในพื้นที่น้ำน้อย ถูกพัฒนาตั้งแต่ปี 2553 ผ่านการผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ ระหว่าง

 • สายพันธุ์แม่ RGD03068 ซึ่งทนแล้ง

 • สายพันธุ์พ่อ “แก้วเกษตร” ที่ต้านทานโรคไหม้และต้นเตี้ยไม่หักล้ม


ไม่มีการใส่ยีนจากสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามา โดยใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอช่วยคัดเลือกลักษณะเด่น ซึ่งเป็นเทคนิคมาตรฐานระดับโลกในการคัดเลือกพันธุ์พืช



อยู่ระหว่างการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว


สวทช. ระบุว่า กระบวนการรับรองพันธุ์ข้าวใหม่ต้องผ่านการทดสอบหลายพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้มั่นใจว่า

- ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ

- มีเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมต่างกัน

- ตอบสนองต่อปุ๋ยเหมาะสม

- ทนโรค แมลง และมีคุณภาพเมล็ดตามมาตรฐาน


ข้าวหอมสยามได้ถูกนำไปปลูกทดสอบตั้งแต่ปี 2563 ในหลายจังหวัด ทั้งอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ก่อนขยายพื้นที่ไปยัง 12 จังหวัดในภาคเหนือและอีสานตอนบน รวม 21 ไร่ พบว่าเกษตรกรให้ความสนใจ เพราะเป็นพันธุ์เตี้ย ลำต้นแข็งแรง ลดความเสียหายจากการหักล้ม


ปี 2567 ข้าวหอมสยามถูกทดสอบในจังหวัดพิจิตรและพบว่าสามารถให้ผลผลิตได้สูงกว่า 800 กิโลกรัมต่อไร่


นอกจากนี้ สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังได้รับใบอนุญาต พ.พ.1 สำหรับการรวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ซึ่งยืนยันกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย

พัฒนาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถข้าวไทย


ศ.ชูกิจ ระบุว่า การพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ เป็นกลไกสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยข้าวหอมสยามมีจุดแข็งสำคัญ ได้แก่

 - ผลผลิตสูง

- ลำต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย

- ต้านทานโรค

- ทนสภาวะแห้งแล้ง

- คุณภาพการหุงต้มดี มีกลิ่นหอม

- เมล็ดข้าวขัดขาวตรงความต้องการของตลาด


คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ข้าวหอมสยามเป็นพันธุ์ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดเกษตรกรและผู้บริโภคที่ต้องการข้าวคุณภาพสูงหลากหลายชนิด


สวทช. มั่นใจ “ข้าวหอมสยาม” สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรไทย


สวทช. ย้ำว่า การพัฒนาข้าวหอมสยามเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้ข้าวหอมสยามสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างเป็นทางการ และเป็น “ผลิตภัณฑ์แข่งขันได้ในตลาดโลก” ช่วยสร้างทางเลือกใหม่ ลดความเสี่ยงจากผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร


ข้าวหอมสยามจึงถือเป็นพันธุ์ข้าวศักยภาพสูงที่กำลังก้าวสู่การรับรองขั้นสุดท้าย พร้อมวางตำแหน่งเป็นข้าวคุณภาพดี เพื่อเสริมแกร่งให้กับอุตสาหกรรมข้าวไทยในระยะยาว.

สรุปข่าว

กระทรวง อว.–สวทช. ยืนยัน “ข้าวหอมสยาม” ปลอดภัย ไม่ใช่ GMO ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว เดินหน้ารอการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว หวังเป็น ‘ข้าวทางเลือก’ ให้เกษตรกร

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ออกมายืนยันชัดเจนว่า “ข้าวหอมสยาม” เป็นพันธุ์ข้าวที่ปลอดภัย พัฒนาผ่านกระบวนการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติ ไม่ใช่ข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) และไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อแทนที่ “ข้าวหอมมะลิ” ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลกังวลก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่าข้าวหอมสยามได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช (ร.พ.2) จากกรมวิชาการเกษตรตั้งแต่ปี 2565 แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการรับรองพันธุ์โดยกรมการข้าว เพื่อผลักดันให้เป็น “ข้าวทางเลือก” คุณภาพสูงแก่เกษตรกรไทย

ข้าวหอมสยามไม่ใช่ GMO คัดเลือกสายพันธุ์ตามธรรมชาติ


ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผยว่า ไบโอเทค สวทช. ดำเนินงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และกรมการข้าวมากว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง แข็งแรง ทนโรค ทนแล้ง และตอบโจทย์สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง


สำหรับ “ข้าวหอมสยาม” เป็นข้าวเจ้าหอม นุ่ม ให้ผลผลิตสูง และไวต่อแสง ปรับตัวได้ดีในพื้นที่น้ำน้อย ถูกพัฒนาตั้งแต่ปี 2553 ผ่านการผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ ระหว่าง

 • สายพันธุ์แม่ RGD03068 ซึ่งทนแล้ง

 • สายพันธุ์พ่อ “แก้วเกษตร” ที่ต้านทานโรคไหม้และต้นเตี้ยไม่หักล้ม


ไม่มีการใส่ยีนจากสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามา โดยใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอช่วยคัดเลือกลักษณะเด่น ซึ่งเป็นเทคนิคมาตรฐานระดับโลกในการคัดเลือกพันธุ์พืช



อยู่ระหว่างการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว


สวทช. ระบุว่า กระบวนการรับรองพันธุ์ข้าวใหม่ต้องผ่านการทดสอบหลายพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้มั่นใจว่า

- ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ

- มีเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมต่างกัน

- ตอบสนองต่อปุ๋ยเหมาะสม

- ทนโรค แมลง และมีคุณภาพเมล็ดตามมาตรฐาน


ข้าวหอมสยามได้ถูกนำไปปลูกทดสอบตั้งแต่ปี 2563 ในหลายจังหวัด ทั้งอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ก่อนขยายพื้นที่ไปยัง 12 จังหวัดในภาคเหนือและอีสานตอนบน รวม 21 ไร่ พบว่าเกษตรกรให้ความสนใจ เพราะเป็นพันธุ์เตี้ย ลำต้นแข็งแรง ลดความเสียหายจากการหักล้ม


ปี 2567 ข้าวหอมสยามถูกทดสอบในจังหวัดพิจิตรและพบว่าสามารถให้ผลผลิตได้สูงกว่า 800 กิโลกรัมต่อไร่


นอกจากนี้ สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังได้รับใบอนุญาต พ.พ.1 สำหรับการรวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ซึ่งยืนยันกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย

พัฒนาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถข้าวไทย


ศ.ชูกิจ ระบุว่า การพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ เป็นกลไกสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยข้าวหอมสยามมีจุดแข็งสำคัญ ได้แก่

 - ผลผลิตสูง

- ลำต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย

- ต้านทานโรค

- ทนสภาวะแห้งแล้ง

- คุณภาพการหุงต้มดี มีกลิ่นหอม

- เมล็ดข้าวขัดขาวตรงความต้องการของตลาด


คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ข้าวหอมสยามเป็นพันธุ์ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดเกษตรกรและผู้บริโภคที่ต้องการข้าวคุณภาพสูงหลากหลายชนิด


สวทช. มั่นใจ “ข้าวหอมสยาม” สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรไทย


สวทช. ย้ำว่า การพัฒนาข้าวหอมสยามเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้ข้าวหอมสยามสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างเป็นทางการ และเป็น “ผลิตภัณฑ์แข่งขันได้ในตลาดโลก” ช่วยสร้างทางเลือกใหม่ ลดความเสี่ยงจากผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร


ข้าวหอมสยามจึงถือเป็นพันธุ์ข้าวศักยภาพสูงที่กำลังก้าวสู่การรับรองขั้นสุดท้าย พร้อมวางตำแหน่งเป็นข้าวคุณภาพดี เพื่อเสริมแกร่งให้กับอุตสาหกรรมข้าวไทยในระยะยาว.

ที่มาข้อมูล : อว.

ที่มารูปภาพ : อว.

แท็กบทความ

ข้าวหอมสยาม
สวทช
กระทรวงอว
ข้าวไทย
ปลอดภัยไม่ใช่GMO