ผลบอล ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ : เชลซีแชมป์! ยิง 4 ลูกรวด พลิกชนะ เรอัล เบติส 4-1

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เชลซี สมราคาเต็งแชมป์รายการนี้ หลังโดน เรอัล เบติส ยิงนำก่อนในครึ่งแรก แต่รัวทีเดียว 4 ประตูรวดในครึ่งหลัง พลิกกลับมาชนะอย่างขาดลอย 4-1 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และทำสถิติเป็นสโมสรแรกที่เคยได้ทั้งแชมป์ยุโรปครบทุกถ้วยทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
ครึ่งแรก เล่นมาได้เพียง 6 นาที เชลซี ก็ได้โอกาสลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เปโดร เนโต้ ไหลบอลให้ โคล พาลเมอร์ ยิงด้วยซ้ายกะให้เข้าเสาแรก แต่ อาเดรียน นายทวารของ เรอัล เบติส ปัดทิ้งออกหลังไปได้
อย่างไรก็ตาม อีกแค่ 3 นาทีถัดมา กลายเป็น เรอัล เบติส ที่ขึ้นนำก่อน หลัง เชลซี เสียบอลกลางสนาม และเป็น อิสโก้ ที่จ่ายบอลออกซ้ายให้ อับเด เอซซาลซูลี่ ยิงเรียดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ เรอัล เบติส ขึ้นนำก่อน 1-0
หลังจากนั้นเกมของ เบติส กลายเป็นดีกว่า พวกเขามีลุ้นได้ประตูอีกในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ เซดริก บากัมบู เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปตรงกลางให้ มาร์ก บาร์ตร้า กองหน้าเติมขึ้นมายิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่คราวนี้ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น นายทวารของ เชลซี ไม่พลาด พุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้
จากนั้น นาทีที่ 21 ยังเป็น เรอัล เบติส ที่ได้โอกาสอีกครั้ง จาก เอซซาลซูลี่ ที่พาบอลไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเข้ากลางให้ จอห์นนี่ คาร์โดโซ่ ได้แปเน้นๆ แต่บอลไปแฉลบ เบอนัวต์ บาเดียชิล ออกหลัง ได้แค่ลูกเตะมุมเท่านั้น
ช่วงท้ายครึ่งแรก เชลซี ได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 35 เมื่อ มาโล กุสโต้ จ่ายบอลให้ เปโดร เนโต้ ล็อกเข้าเท้าซ้าย ก่อนจะยิงเต็มเท้า แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรก เรอัล เบติส นำ เชลซี อยู่ 1-0
สรุปข่าว
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เชลซี สมราคาเต็งแชมป์รายการนี้ หลังโดน เรอัล เบติส ยิงนำก่อนในครึ่งแรก แต่รัวทีเดียว 4 ประตูรวดในครึ่งหลัง พลิกกลับมาชนะอย่างขาดลอย 4-1 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และทำสถิติเป็นสโมสรแรกที่เคยได้ทั้งแชมป์ยุโรปครบทุกถ้วยทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
ครึ่งแรก เล่นมาได้เพียง 6 นาที เชลซี ก็ได้โอกาสลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เปโดร เนโต้ ไหลบอลให้ โคล พาลเมอร์ ยิงด้วยซ้ายกะให้เข้าเสาแรก แต่ อาเดรียน นายทวารของ เรอัล เบติส ปัดทิ้งออกหลังไปได้
อย่างไรก็ตาม อีกแค่ 3 นาทีถัดมา กลายเป็น เรอัล เบติส ที่ขึ้นนำก่อน หลัง เชลซี เสียบอลกลางสนาม และเป็น อิสโก้ ที่จ่ายบอลออกซ้ายให้ อับเด เอซซาลซูลี่ ยิงเรียดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ เรอัล เบติส ขึ้นนำก่อน 1-0
หลังจากนั้นเกมของ เบติส กลายเป็นดีกว่า พวกเขามีลุ้นได้ประตูอีกในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ เซดริก บากัมบู เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปตรงกลางให้ มาร์ก บาร์ตร้า กองหน้าเติมขึ้นมายิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่คราวนี้ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น นายทวารของ เชลซี ไม่พลาด พุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้
จากนั้น นาทีที่ 21 ยังเป็น เรอัล เบติส ที่ได้โอกาสอีกครั้ง จาก เอซซาลซูลี่ ที่พาบอลไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเข้ากลางให้ จอห์นนี่ คาร์โดโซ่ ได้แปเน้นๆ แต่บอลไปแฉลบ เบอนัวต์ บาเดียชิล ออกหลัง ได้แค่ลูกเตะมุมเท่านั้น
ช่วงท้ายครึ่งแรก เชลซี ได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 35 เมื่อ มาโล กุสโต้ จ่ายบอลให้ เปโดร เนโต้ ล็อกเข้าเท้าซ้าย ก่อนจะยิงเต็มเท้า แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรก เรอัล เบติส นำ เชลซี อยู่ 1-0
ครึ่งหลัง เชลซี แก้เกมเร็วด้วยการส่ง รีซ เจมส์ ลงมาแทน มาโล กุสโต้ ที่เล่นไม่ดี จากนั้นก็เปิดเกมบุกอย่างหนัก นาทีที่ 55 โนนี่ มาดูเอเก้ เปิดบอลเข้ากลางให้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ได้โหม่งจ่อๆ แต่ยังติดเซฟของ อาเดรียน
จากนั้นอีก 2 นาที เชลซี ได้เตะมุมฝั่งซ้าย เปโดร เนโต้ เปิดเบอลลึกไปถึง รีซ เจมส์ ที่อยู่เสาสอง ยิงไปแฉลบ นาตาน กองหลังของ เบติส ออกหลังไปแบบได้ลุ้น
หลังจากบุกอยู่พักใหญ่ เชลซี ก็ตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 65 จากจังหวะที่ โคล พาลเมอร์ ได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนตักเข้ากลางให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เติมขึ้นมาโหม่งเล่นทางเข้าประตูไป ทำให้ เชลซี ตีเสมอเป็น 1-1
หลังตีเสมอได้สำเร็จ โมเมนตัมเหวี่ยงมาอยู่กับ เชลซี ทันที ก่อนที่อีก 5 นาทีต่อมา เชลซี พลิกแซง 2-1 จากจังหวะที่ โคล พาลเมอร์ พลิกบอลหลุดเข้ามาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้ากลางให้ นิโกล่าส์แจ็คสัน โหม่งที่เสาแรกตัดหน้า อาเดรียน เข้าประตูไปง่ายๆ
จากนั้นนาทีที่ 83 เชลซี นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ไหลบอลออกทางด้านซ้ายให้ เจดอน ซานโช่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมนี้ล็อกบอลเข้าเท้าขวา ก่อนจะยิงปั่นโค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชลซี มายิงเพิ่มได้อีกประตูจากจังหวะการเล่นโต้กลับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ผ่านบอลซ้ายเข้ากลางให้ มอยเซส ไกเซโด้ ได้ยิงหน้ากรอบเขตโทษเข้าเสาแรกไปอย่างเด็ดขาด ทำให้จบเกม เชลซี พลิกชนะ เรอัล เบติส ไปอย่างขาดลอย 4-1 คว้าแชมป์ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ประจำฤดูกาลนี้ไปครอง
ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เรอัล เบติส (4-3-3) : อาเดรียน : ยูสซูฟ ซาบาลี่, มาร์ก บาร์ตร้า, นาตาน, ริคาร์โด้ โรดริเกซ : จอห์นนี่ คาร์โดโซ่, อิสโก้, ปาโบล ฟอร์นาลส์ : อันโตนี่, เซดริก บากัมบู, อับเด เอซซาลซูลี่
เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น : มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, มาร์ก กูกูเรย่า : เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไกเซโด้ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : Chelsea FC